ตลาดคริปโตเคอเรนซี่ร่วงแรง 7.5% สู่ $2.83 ล้านล้าน เนื่องจากความกังวลเรื่องนโยบายภาษีของประธานาธิบดี

ตลาด cryptocurrency ประสบกับการดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยมีมูลค่าตลาดรวมลดลงถึง 7.5% สู่ระดับ 2.84 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเช้าของวันอังคารซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในระบบเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

ในช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในสภาวะตกต่ำ ทุกเหรียญที่ไม่ใช่ stablecoin ในกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล 45 อันดับแรกตามมูลค่าตลาด ต่างเผชิญกับการขายทำกำไรอย่างรุนแรง ทั้งนี้ โดยเฉพาะเหรียญสำคัญ เช่น bitcoin และ ethereum ซึ่งประสบการดิ่งลงเกือบ 8% และ 9% ตามลำดับ ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยของตลาดดังกล่าวตกต่ำไปยังระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในระยะเวลาอันยาวนาน

ปัจจัยที่นำมาซึ่งความผันผวนนี้ประกอบด้วยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก รวมถึงข้อมูลล่าสุดที่มีการรายงานเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ สถานการณ์นี้ทำให้เหล่านักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อธุรกิจและตลาดการเงินในระยะยาว ด้วยจำนวนเงินที่มากมายเหล่านี้ นักลงทุนหลายรายจึงตัดสินใจขายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง

นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการหนีความเสี่ยง โดยแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สนใจในการลงทุนใน cryptocurrency พิจารณาถึงพื้นฐานของตลาดในขณะนี้ก่อนการลงทุน ในขณะที่สัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งพวกเขารอคอยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะมีผลต่อหุ้นและตลาดการเงินอื่น ๆ

การดิ่งลงของตลาด cryptocurrency นี้ยังส่งผลต่อยอดการซื้อขายในบรรดาสกุลเงินดิจิทัล โดยรวมถึงเหรียญที่มีชื่อเสียง เช่น Binance Coin, Cardano และ solana ที่ล้วนลดลงกว่า 7.5% ในเวลาเดียวกัน นักลงทุนทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ที่มา 2025 ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องพิจารณายุทธศาสตร์การลงทุนใหม่

ทั่วตลาด เราเห็นการเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่กลายเป็นการรักษาเสถียรภาพ โดยกวาดซื้อเหรียญ stablecoin อาทิเช่น Tether และ USD Coin เพื่อเพิ่มความมั่นคงแก่พอร์ตการลงทุน ในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอน แนวโน้มนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนยังคงมีความต้องการในการรักษาสมดุลของสินทรัพย์ในช่วงวิกฤติ

ในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน ท่ามกลางความเสื่อมโทรมนี้ เหรียญเหรียญที่เกิดขึ้นใหม่และเทคโนโลยีที่ใช้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากนักพัฒนาและผู้ใช้รอบด้าน โดยเฉพาะในโครงการที่มุ่งหวังการขยายตลาดและการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ ภายในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล แม้จะมีสภาวะทางการตลาดที่ยากลำบาก แต่ผู้พัฒนาที่มองการณ์ไกลยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตและนวัตกรรมในระยะยาว

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญกำลังแนะนำให้ผู้ลงทุนเตรียมตัวสำหรับการปรับตัวและวางแผนการเสี่ยงที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ด้วยการศึกษาผลกระทบจากปัจจัยภายนอก รวมถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจในอนาคต การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของตลาดในระยะถัดไป

สรุปแล้ว ตลาด cryptocurrency ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายอันรุนแรงจากภายนอก นักลงทุนต้องใช้เวลาวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นและเตรียมพร้อมพิจารณาหรือลงทุนใหม่กับสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต นี่จึงถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการติดตามและศึกษาระดับความเข้มแข็งของตลาดและพัฒนาการที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป.