Connect with us

Altcoins

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดา เม็กซิโก และจีน: ทรัมป์กำหนดอัตราภาษีใหม่กระทบเศรษฐกิจ

Published

on

สงครามการค้าได้ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐอเมริกาได้ประกาศขึ้นภาษีใหม่กับแคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างยิ่ง ประเทศแคนาดาได้เริ่มตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ นอกจากนี้ เม็กซิโกก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดยมีการตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน ขณะที่จีนได้เตือนถึงผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของสหรัฐฯ นี้

การตัดสินใจของสหรัฐอเมริกานี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ภาษีที่ถูกเรียกเก็บในครั้งนี้มีตั้งแต่ 15% ถึง 25% ซึ่งจะกระทบต่อสินค้าหลายประเภท ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เกษตรไปจนถึงสินค้าคอมนานาชนิด ผลกระทบในครั้งนี้อาจจะไม่ได้จำกัดเพียงแค่ประเทศที่ถูกเก็บภาษี แต่ยังมีผลสะท้อนต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย

แคนาดาได้ประเมินว่าภาษีที่ตอบโต้ที่พวกเขากำหนดจะอยู่ที่ประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมไปถึงสินค้าหลายรายการที่ถูกส่งออกไปยังสหรัฐ อาทิเช่น ผลไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์จากไม้ นอกจากนี้ เม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาตรการตอบโต้ในการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับจีนที่ได้สั่งห้ามการนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐ และได้เตือนว่าการตัดสินใจเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้น

ความตึงเครียดในสงครามการค้าไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประเทศที่ถูกเก็บภาษี เรายังเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนชั้นวางขายสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อในชีวิตประจำวัน ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะภาษีที่สูงขึ้นสะท้อนมาอยู่ในราคาของสินค้านั้นๆ

ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับเสียงดังกังวานจากภาคธุรกิจต่างๆ ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายพันธุ์สิบของรัฐบาล ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างๆ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาผลกระทบที่มีต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัท และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในสายการผลิต

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า สงครามการค้านี้อาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และคู่ค้ารายใหญ่ เช่น แคนาดา เม็กซิโก และจีน ที่ต่างก็มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะในธุรกิจการผลิตและการเกษตร นโยบายดังกล่าวอาจสร้างความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ซึ่งอาจนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ความตึงเครียดในสงครามการค้าเป็นปัจจัยที่ปิดกั้นการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ และทำให้บริษัทที่พึ่งพาการส่งออกและการนำเข้าต้องวางแผนใหม่เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าสังเกตว่า การตอบโต้โดยประเทศต่างๆ มีแนวโน้มที่จะทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลุกลามไปสู่ระดับการต่อสู้ทางการค้าระหว่างมหาอำนาจ ซึ่งในระยะยาว อาจส่งผลต่อบรรยากาศทางธุรกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโดยรวม

การวิเคราะห์ในเรื่องเหล่านี้ต้องดำเนินต่อไป โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศมองว่า สถานการณ์นี้อาจทำให้ภาพการค้าโลกต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ ด้วยความซับซ้อนของระบบเศรษฐกิจที่มีการผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดย่อมสร้างความท้าทายอย่างมากต่อผู้กำหนดนโยบายในการพาเศรษฐกิจไปสู่ระยะที่ยั่งยืนและมั่นคงที่สุดทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending