Scott Bessent’s $300K Stake in BlackRock Bitcoin ETF Raises Concerns Over Conflicts Amid Treasury Nomination

การเปิดเผยการลงทุนใน ETF ของ bitcoin ของ BlackRock โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กระตุ้นความสนใจอย่างมากในวงการการเงิน สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างผู้มีอำนาจตัดสินใจทางเศรษฐกิจและสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในประเด็นหลักคือการลงทุนแบบส่วนบุคคลของ Scott Bessent ซึ่งเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเขาได้เปิดเผยว่ามีการลงทุนเริ่มต้นที่อยู่ระหว่าง 250,001 ถึง 500,000 ดอลลาร์ใน ETF ของ Bitcoin ของ BlackRock

การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องหมายของแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยผู้มีอิทธิพลในรัฐมนตรีคลัง แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถขององค์กรการเงินในการปรับตัวและสร้างผลตอบแทนในตลาดที่ไม่แน่นอน ในขณะที่ BlackRock เป็นหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงานของเขาจะต้องเผชิญกับคำถามที่ยากลำบากเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพวกเขาในอุตสาหกรรมที่ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างเต็มที่

ท่ามกลางการเปิดเผยนี้ Bessent ได้แสดงเจตจำนงที่จะแยกตัวออกจากการลงทุนดังกล่าวหากเขาได้รับตำแหน่งเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในอนาคต การตัดสินใจนี้มีความสำคัญ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างนักการเมืองและบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก

ประเด็นนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน โดยตลาดทั้งหมดยังคงได้รับผลกระทบจากการควบคุมที่เพิ่มขึ้นและแนวทางของหน่วยงานรัฐบาลในเกือบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง การแสดงบทบาทของ BlackRock ในการเสนอผลิตภัณฑ์ Bitcoin ETF ได้สร้างกระแสในวงการการเงิน ในขณะเดียวกัน Bessent ก็อาจต้องเผชิญกับการตั้งคำถามจากฝ่ายตรงข้ามเกี่ยวกับเหตุผลที่ลงทุนในสินทรัพย์นี้เมื่อเขามีโอกาสที่จะมีอำนาจในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต

ในขณะเดียวกันการลงทุนใน Bitcoin ของ BlackRock ได้กระตุ้นให้เกิดความสนใจในหมู่นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนที่มองหาโอกาสใหม่ในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนอาจเห็นโอกาสใน Bitcoin ETF เพื่อเข้าถึงตลาดคริปโตเคอเรนซี่ได้ง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น การพิจารณาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน ETF อาจช่วยลดความเสี่ยงที่นักลงทุนเฉลี่ยต้องเผชิญ

หาก Bessent ได้รับการแต่งตั้ง อย่างไรก็ตาม ข้างหน้าเขายังมีความรับผิดชอบสำคัญในการประเมินวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมและบริหารกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ทีมงานทางเศรษฐกิจของเขาจะต้องวางแผนกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนตลาดและปกป้องนักลงทุน ในขณะเดียวกันก็ต้องมุ่งหวังให้เกิดความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินดั้งเดิมในประเทศ

การประกาศของ Bessent ไม่เพียงแต่มีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนในอนาคต แต่ยังสามารถจะเป็นการผลักดันให้เกิดประเด็นใหม่เกี่ยวกับวิธีการที่สหรัฐอเมริกาจะจัดการกับตลาดการเงินสมัยใหม่ ทางการอาจต้องมีมุมมองที่มากกว่านี้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ท้ายที่สุด การลงทุนครั้งนี้ของ Bessent จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาในวงกว้างเกี่ยวกับเส้นแบ่งระหว่างการลงทุนทางการเมืองและการลงทุนในสินทรัพย์ที่กำลังพัฒนา ผู้ที่ติดตามข่าวสารทางการเงินและการเมืองในอนาคตจะสามารถประเมินได้ว่า Bessent และการบริหารของทรัมป์จะนำพาดอการเติบโตทางเศรษฐกิจและการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างไรบ้าง