Altcoins

GENIUS Act Advances to Law as U.S. House Passes Landmark Crypto Bills During Crypto Week

Published

on

ขณะนี้ สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายที่สำคัญซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมนี้ ในช่วงสัปดาห์คริปโตที่กำลังจัดขึ้น รัฐบาลสหรัฐได้พิจารณาร่างกฎหมาย GENIUS และ CLARITY รวมถึงกฎหมายต่อต้าน CBDC (Central Bank Digital Currency) ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะมีผลต่อโครงสร้างการเงินและการลงทุนในอนาคต

เมื่อเร็วๆ นี้ คริปโตร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการอภิปรายใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง โดยผลโหวตในครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากนี่จะเป็นร่างกฎหมายหลักฉบับแรกที่ถูกบรรจุลงในระบบนิติบัญญัติ ในระหว่างการลงคะแนนเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 294 คนได้ลงคะแนนสนับสนุนร่างกฎหมาย CLARITY ในขณะที่มีเพียง 134 คนที่คัดค้าน ขณะที่ร่างกฎหมาย GENIUS ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นด้วยคะแนน 308 ต่อ 122 สำหรับร่างกฎหมายต่อต้าน CBDC มีสมาชิก 219 คนที่สนับสนุนและ 210 คนที่คัดค้าน

ด้วยการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ร่างกฎหมายเกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์จะถูกส่งไปยังทำเนียบขาวเพื่อรอการลงนามจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะมีพิธีลงนามในวันพรุ่งนี้ เวลา 14:30 น. ตามเวลา EST สำหรับร่างกฎหมาย CLARITY และ Anti-CBDC ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภา

ทรัมป์ได้แสดงความเห็นว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถก้าวหน้าเหนือจีนและยุโรป เนื่องจากมันจะทำให้หน่วยงานที่ออกสเตเบิลคอยน์ เช่น Tether, Circle และ Ripple ต้องมีการจัดเก็บสำรองที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ ร่างกฎหมาย CLARITY ยังให้ความชัดเจนในบทบาทของหน่วยงานควบคุมตลาด เช่น SEC และ CFTC ในการจัดการอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี

ในขณะเดียวกัน ผลกระทบด้านราคาในตลาดคริปโตถือว่ามีแนวโน้มดี หลังจากข่าวการผ่านร่างกฎหมายทั้งสามฉบับนี้ ราคาบิตคอยน์กลับมาข้ามระดับ $120,000 อีกครั้ง และมองหาสูงสุดใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะแตะถึง $125,000 ขณะที่ราคา XRP ก็มีการทะยานสูงขึ้นอย่างมากตามทิศทางนี้

ความเคลื่อนไหวในตลาดและการพัฒนาของกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีนี้ ยังสะท้อนถึงความต้องการที่ชัดเจนจากทั้งนักลงทุนและหน่วยงานด้านการเงินของรัฐบาล ที่ต้องการเห็นกรอบการควบคุมที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาในอนาคต การมีนโยบายที่เป็นเอกภาพสามารถสร้างความมั่นใจในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ และร่วมกันเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมคริปโตนั้นสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

โดยรวมแล้ว การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS และ CLARITY ถือเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญในความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและอุตสาหกรรม ซึ่งจะยกระดับมาตรฐานในระดับสากลของภูมิทัศน์ทางการเงินในอนาคต โดยเฉพาะทางด้านการเงินดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending

Exit mobile version