Connect with us

Bitcoin

Dormant Bitcoin Wallets from 2012-2017 Reactivated as BTC Whales Accumulate Millions

Published

on

เมื่อห้าวันก่อน มีการเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีเมื่อกระเป๋าเงินบิตคอยน์ที่มีสถานะหลับใหลเป็นเวลาหลายปีติดต่อกันถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง โดยเฉพาะกระเป๋าเงินที่มีต้นกำเนิดย้อนกลับไปถึงปี 2017 แสดงให้เห็นการฟื้นฟูของเงินทุนจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้ถูกใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ราคาของบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้นในปี 2017 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของสกุลเงินดิจิทัล

การวิเคราะห์จากบริษัท Santiment เปิดเผยว่าจำนวนกระเป๋าเงินที่ถือบิตคอยน์ระหว่าง 100 ถึง 1,000 btc เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 41.5% ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความตั้งใจของผู้ถือหุ้นใหญ่หรือที่เรียกว่าบิตคอยน์วาฬ ว่าพวกเขาวางแผนจะทำอย่างไรกับสินทรัพย์เหล่านี้ในอนาคต การเพิ่มขึ้นนี้อาจสะท้อนท่าทีที่ระมัดระวังหรือกลยุทธ์ในการหาผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในตลาดซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ในขณะที่ตลาดเงินดิจิทัลยังคงเผชิญกับความผันผวน ราคาเฉลี่ยของบิตคอยน์ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $19,150 ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวที่ค่อนข้างดีในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนเงินที่เคลื่อนย้ายจากกระเป๋าเงินต่างๆ รวมถึงการที่ผู้ถือบิตคอยน์วาฬเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในการเก็บรักษาสินทรัพย์ของพวกเขา อาจบ่งบอกถึงบรรยากาศที่เป็นลบหรือต่อต้านของตลาดอย่างน้อยในระยะสั้น

การฟื้นฟูกระเป๋าเงินบิตคอยน์ที่หลับใหลเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นักลงทุนรายย่อยเริ่มมีส่วนร่วมในตลาดมากขึ้น ผ่านการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นด้านคุณภาพ และการลงทุนในแบบระยะยาว จากข้อมูลล่าสุด นักลงทุนที่มีความเคลื่อนไหวในการซื้อขายรายย่อยมีส่วนทำให้การซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนมีความคึกคักนักถึง 30% ในขณะที่การซื้อขายของบิตคอยน์โดยวาฬกลับมีแนวโน้มที่จะหดตัวลง

การเคลื่อนไหวของบิตคอยน์จากกระเป๋าเงินที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน หนุนให้เกิดความสนใจในกลุ่มนักเก็งกำไรและนักลงทุนที่ต้องการทำความเข้าใจแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาด โดยผู้เชี่ยวชาญบางรายวิเคราะห์ว่าการฟื้นฟูเหล่านี้หมายถึงการกลับเข้ามาของนักลงทุนที่เชื่อว่าอนาคตของบิตคอยน์ยังคงมีความสดใส โดยเฉพาะในบริบทของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อาจทำให้บิตคอยน์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าการเคลื่อนไหวและการฟื้นฟูของกระเป๋าเงินเหล่านี้จะส่งผลให้ราคาบิตคอยน์เพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่ยังคงไม่มีการยืนยันได้ชัดเจนว่า แนวโน้มนี้จะส่งผลกระทบในระยะยาวอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีความไม่แน่นอนในภูมิทัศน์เศรษฐกิจทั่วโลกที่อาจส่งผลให้เกิดแรงดึงดูดหรือแรงกดดันต่อสกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์

อีกส่วนหนึ่งคือบทบาทของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งกำลังเริ่มมีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและบิตคอยน์มากขึ้น มีการคาดการณ์ว่าในปีหน้า การลงทุนจากนักลงทุนสถาบันอาจเพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อตลาดเปิดตัวยอมรับโดยทั่วไปมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น

สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่ต้องติดตามต่อไป เนื่องจากการที่นักลงทุนวาฬฟื้นฟูกระเป๋าเงินที่ไม่เคยมีกิจกรรมนี้ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในมุมมองและกลยุทธ์การลงทุนมากไม่น้อย โดยต้องรอดูว่าตลาดจะตอบสนองอย่างไรต่อการเคลื่อนไหวนี้ และจะเกิดการลงทุนใหม่ในอัตราที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวได้หรือไม่

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending