Connect with us

Bitcoin

Chamath Palihapitiya คาดการณ์การใช้งาน Stablecoin จะท้าทายการผูกขาดของ Visa และ Mastercard ในปี 2025

Published

on

Chamath Palihapitiya, CEO ของบริษัททุนด venture Social Capital ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ Stablecoin ว่าอาจมีแนวโน้มที่จะเติบโตและกลายเป็นที่แพร่หลายในปี 2025 โดยเฉพาะเมื่อมองถึงสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่สูงและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกใช้สกุลเงินดิจิทัล

เขาได้กล่าวในการสัมมนาเมื่อไม่นานมานี้ว่า การนำ Stablecoin มาใช้จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะบรรเทาค่าธรรมเนียมที่ใช้ในการทำธุรกรรมเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นทางเลือกที่มั่นคงกว่าสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจาก Stablecoin มีการป้องกันมูลค่าด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสถียร จึงช่วยลดความผันผวนที่มักพบใน cryptocurrencies อื่น ๆ

Palihapitiya ยังได้กล่าวว่า เสถียรภาพของ Stablecoin จะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเงินทั่วโลก และเขามองเห็นว่าการใช้ Stablecoin จะท้าทายการผูกขาดของ Visa และ Mastercard ในด้านการทำธุรกรรมทางการเงิน ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า โดยระบุว่า Stablecoin จะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดจากอนาคตที่พวกเขากำลังครองอยู่ในขณะนี้

ในมุมมองของเขา สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง และการขาดแคลนการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับประชากรที่ไม่เคยมีบัญชีธนาคาร จะกระตุ้นให้ผู้คนหันมาใช้ Stablecoin มากขึ้น นอกจากนั้น เขาเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

มีความคาดหวังว่า Stablecoin จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมได้มากกว่า 50% เมื่อเปรียบเทียบกับระบบการเงินดั้งเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ Satoshi Nakamoto, ผู้สร้าง bitcoin ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัลที่จะเปลี่ยนแปลงตรรกะการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลไปอย่างสิ้นเชิง

การใช้ Stablecoin นั้นไม่ได้มาโดยไม่มีความท้าทาย ทั้งในด้านกฎหมายและการกำกับดูแล เนื่องจากยังมีข้อสงสัยและความไม่แน่นอนในด้านความปลอดภัย ความเสี่ยงในการแฮ็ก และความเป็นส่วนตัวที่ผู้ใช้จะต้องพิจารณา อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการใช้งาน Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลต่อทิศทางของระบบการเงินในอนาคต

Palihapitiya ยังได้ให้รางวัลการมีส่วนร่วมของนักลงทุนและบริษัทร่วมทุนที่สนับสนุนการพัฒนา Stablecoin โดยระบุว่า โลกการลงทุนกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ กล่าวถึงความสามารถของ Stablecoin ในการสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานในด้านการใช้จ่าย การโอนเงิน และการเก็บออม

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ยกตัวอย่างประเด็นทางเศรษฐกิจที่สามารถนำ Stablecoin เข้ามามีบทบาทในการสร้างนวัตกรรมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งจากค่าใช้จ่ายที่ลดลงและอำนาจในการเข้าถึงที่มากขึ้นสำหรับประชากรทั่วไป โดยกล่าวว่า Stablecoin จะเป็นเครื่องมือที่จะนำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเงินอย่างแท้จริง

ด้วยการที่ Palihapitiya เชื่อมั่นว่า การยอมรับ Stablecoin จะเพิ่มขึ้นในปี 2025 เขากล่าวทิ้งท้ายว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจะทำให้ผู้คนสามารถใช้ Stablecoin ได้อย่างกว้างขวาง ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินกลายเป็นเรื่องที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่อาจท้าให้ระบบการเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันต้องมาเร่งปรับตัวเพื่อที่จะไม่ตกยุคในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending