Connect with us

DeFi

Chainalysis Report Reveals $2.21 Billion Stolen by Cybercriminals in Over 300 Attacks on Crypto Platforms in 2024

Published

on

ยอดการขโมยเงินเข้ารหัสลับจากการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2567 โดยมียอดความเสียหายรวมกว่า 2.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากเหตุการณ์การแฮ็ก 303 ครั้ง ตามรายงานล่าสุดจาก Chainalysis ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์วงการเงินดิจิทัลทั่วโลก รายงานนี้ได้เผยแพร่ข้อมูลถึงพฤติกรรมของกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่มีการจัดการโดยเฉพาะกลุ่มจากเกาหลีเหนือ ซึ่งมีส่วนรับผิดชอบมากกว่า 60% ของมูลค่าการขโมยในทวีป

นอกจากนี้ถูกค้นพบว่า ช่องโหว่บนพื้นที่ของ DeFi หรือการเงินแบบกระจายอำนาจเป็นจุดหลักที่แฮ็กเกอร์เลือกเป็นเป้าหมาย ภายในอุตสาหกรรม DeFi พบว่ามีการซ้ำเติมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งในปี 2566 มีการรายงานการขโมยเพียง 1.95 พันล้านดอลลาร์ การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของความปลอดภัยในระบบของการเงินดิจิทัลและจำเป็นต้องมีการดำเนินการป้องกันอย่างเข้มงวดมากขึ้น

การค้นคว้าและวิเคราะห์จาก Chainalysis เผยให้เห็นว่า การโจมตีส่วนใหญ่เกิดจากเครือข่ายบอทเน็ทและการใช้แมลแวร์ที่ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและรหั�ำนักชั่งรหัสการเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้ใช้ ทำให้ผู้กระทำความผิดสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินเหล่านั้นและโอนสินทรัพย์ไปยังบัญชีของพวกเขาเองได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

รายงานยังได้มีการกล่าวถึงพฤติกรรมการใช้ความช่วยเหลือจากด้านเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการนำทางสินทรัพย์ที่ถูกขโมยมาซุกซ่อนให้พ้นจากการตรวจจับของหน่วยงานต่างๆ กลุ่มแฮ็กเกอร์มักใช้เทคนิคและประตูหลังต่างๆ ในการสร้างเส้นทางการเงินที่ซับซ้อนผ่านแพลตฟอร์ม DeFi ที่แตกต่างกัน เพื่อยุ่งเหยิงการติดตาม

ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์เชื่อว่ามีความจำเป็นในการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้กับระบบเงินดิจิทัลอย่างเร่งด่วน พวกเขาแนะนำว่าสิ่งสำคัญคือต้องมีการใช้ระบบตรวจสอบและการตรวจสอบย้อนกลับที่เต็มรูปแบบเพื่อยับยั้งภัยคุกคามเหล่านี้ รวมทั้งการอัปเดทสม่ำเสมอและการใช้ซอฟต์แวร์ความปลอดภัยชั้นนำที่มีความสามารถในการตรวจจับความผิดปกติในระบบอย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงแต่นั้น ยังมีการเรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ ในเครือข่ายการเงินเพื่อป้องกันการโจรกรรมและการฟอกเงิน การส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทบล็อกเชนและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะช่วยให้การตรวจจับและการป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ดียิ่งขึ้น

ผ่านมุมมองของ Chainalysis และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ในอุตสาหกรรม เราเห็นได้ชัดเจนว่าความจำเป็นในการพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัยให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของอาชญากรรมทางไซเบอร์ในโลกของการเงินดิจิทัล เพื่อรับรองความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่นี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน.

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending