ในหมายเหตุที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งอเมริกาเผยว่า ราคาทองคำมีโอกาสสูงที่จะพุ่งขึ้นไปถึง $4,000 ภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า สาเหตุหลักเกิดจากสถานการณ์ทางภูมิศาสตร์ที่ไม่แน่นอนและความสนใจที่ต่ำของนักลงทุนต่อการลงทุนในทองคำซึ่งถือเป็นที่หลบภัยในยามที่ตลาดไม่แน่นอน สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นได้สร้างแรงกดดันต่อความเป็นไปได้ของการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น ตลาดได้เห็นการตอบสนองที่รวดเร็วจากนักลงทุนในช่วงเวลาที่เกิดความปั่นป่วน เป็นที่ชัดเจนว่านักลงทุนกำลังมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว ธนาคารแห่งอเมริกายังชี้ว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศเช่นจีนและอินเดียซึ่งเป็นตลาดใหญ่สำหรับทองคำ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถช่วยส่งผลให้อัตราราคาทองคำสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ การผลิตทองคำเกินความต้องการในบางปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต หนึ่งในปัจจัยที่เสริมสร้างความเชื่อมั่นในทองคำคืออัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ ในปัจจุบัน มีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะทำให้ความสนใจในทองคำในฐานะสินทรัพย์หลบภัยกลับมาสดใสอีกครั้ง นักลงทุนหลายรายเชื่อว่าทองคำสามารถปกป้องมูลค่าท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ...
รายงานล่าสุดจาก Chainalysis และ AUSTRAC เปิดเผยว่า การโอนเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลในลาตินอเมริกากำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี 2024 สถิติแสดงให้เห็นว่าปริมาณการโอนเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า 41.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งระยะเวลานั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านสกุลเงินดิจิทัล ความนิยมในการใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อโอนเงินในละตินอเมริกานั้นเกิดจากหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยหลักคือการเข้าถึงบริการการเงินที่จำกัด ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องหาวิธีที่สะดวกและรวดเร็วใน การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ สกุลเงินดิจิทัลจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการส่งเงินกลับบ้านจากต่างประเทศ แนวโน้มการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในลาตินอเมริกายังได้รับการสนับสนุนจากการแพร่หลายของ stablecoins ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความเสถียรเป็นอย่างมากในเรื่องของราคา โดยเฉพาะเหรียญดอลลาร์ดิจิทัล (Digital Dollar) ที่เป็นที่นิยมในหลายประเทศ ในขณะที่สกุลเงิน...
UBS สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของวุฒิสภาในการผลักดันร่างกฎหมายเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งเต็มไปด้วยมาตรการจูงใจทางภาษีถาวร และการผ่อนผันทางการค้า ที่มีแรงกดดันอย่างมากเพื่อตอบสนองเส้นตายในเดือนกรกฎาคมนี้ ในรายงาน Washington Weekly ล่าสุด UBS ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา พร้อมชี้ให้เห็นถึงการพิจารณาร่างกฎหมายที่มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด การพัฒนานี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจจำนวนมาก รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนในตลาด การมีร่างกฎหมายที่รวมการลดภาษีและแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น การเร่งดำเนินการของวุฒิสภานี้แสดงให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจ รายงานของ UBS ยังเตือนถึงความยุ่งเหยิงที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการออกกฎหมาย ข้อพิพาททางการเมืองและความไม่เข้าใจกันระหว่างพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาลอาจทำให้การผลักดันร่างกฎหมายไม่เป็นไปตามที่หวัง ในขณะเดียวกัน การสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุนและธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างแรงกดดันให้วุฒิสภาสามารถโยกย้ายในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ความเร่งรีบของรัฐบาลในการผลักดันร่างกฎหมายซึ่งถูกเรียกว่า “บิลใหญ่และสวยงาม” ยังสะท้อนถึงการตอบสนองต่อข้อกังวลทั้งที่เกิดขึ้นในประเทศและบนเวทีโลก...
ความกังวลเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่าน ข้อมูลจาก Polymarket แสดงให้เห็นว่าโอกาสในการที่อิหร่านจะปิดกั้นหรือปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญที่สุดในโลก ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 47% เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 24% เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา สถานการณ์นี้มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศอย่างรุนแรง ช่องแคบฮอร์มุซมีบทบาทสำคัญในการขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ขนส่งสินค้าทางทะเลจากอ่าวเปอร์เซียไปยังตลาดโลก การปิดกั้นช่องแคบนี้จะมีผลกระทบต่อการจัดหาและราคาน้ำมัน ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดโลก นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดความตึงเครียดในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว การที่อิสราเอลเลือกที่จะโจมตีอิหร่านในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยามนี้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก...
การวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ของ Coinbase ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับทิศทางของตลาดคริปโตเคอเรนซีในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการที่อาจทำให้การเติบโตนี้เป็นไปได้ พวกเขาเชื่อว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจ และความก้าวหน้าในด้านการกำกับดูแลจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแนวโน้มเชิงบวกนี้ ## ความคาดหวังเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์ของ Coinbase คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงปี 2025 จะปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เกิดความมั่นใจในตลาดการลงทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระดับที่สูงขึ้น ความคาดหวังนี้เกิดขึ้นในเมื่อภัยคุกคามจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเริ่มลดลง บริษัทและผู้ลงทุนจะมีโอกาสมากขึ้นในการพิจารณาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ## การนำคริปโตเคอเรนซีเข้าสู่ธุรกิจ นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของการใช้สกุลเงินดิจิทัลในธุรกิจจะช่วยสร้างอุปสงค์ที่มากขึ้น จากการที่บริษัทหลายแห่งเริ่มนำเสนอการชำระเงินด้วยคริปโตเคอเรนซีให้แก่ลูกค้า รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ การปรับตัวนี้ทำให้ตลาดมีความหลากหลายและเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ ๆ...
ราคาทองคำ เงิน และแพลตตินัมมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน ซึ่งเห็นการขยับตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันมาใช้เงินและแพลตตินัมเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความอ่อนแอของเงินดอลลาร์ ความต้องการในสินค้าทองคำและการลงทุนผ่านกองทุน ETF เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคาเงินและแพลตตินัมอย่างรุนแรง ในช่วงเวลาที่เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจนี้ สถานการณ์หนี้สินของสหรัฐฯ ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวของเศรษฐกิจโลก ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหันมาให้ความสนใจในเงินดอลลาร์น้อยลง และเริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่มีความมั่นคงมากขึ้น รวมถึงเงินและแพลตตินัม ความต้องการในเงินมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการวิเคราะห์ว่าในเดือนมิถุนายน ราคาเงินขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 41.5% เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา และราคาแพลตตินัมก็ร่วงจากการซื้อขายที่ต่ำ โดยในช่วงเริ่มต้นของเดือนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ...
การใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพ หรือ stablecoin กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนและธุรกิจระดับใหญ่ทั่วโลก ล่าสุดแหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สองรายคือ Walmart และ Amazon กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่มีการรองรับด้วยดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตลาด cryptocurrency ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ stablecoin ที่มีจุดแข็งคือการลดความผันผวนของราคา ทำให้สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลจาก Wall Street Journal ระบุว่า Amazon และ...
ราคาบิทคอยน์ประสบปัญหาลดลงในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกเลิกคำตำหนิต่อเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยกล่าวว่าการตัดสินใจของเขาเกี่ยวกับนโยบายการเงินมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางการประกาศข้อมูลจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าความคาดหมาย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ลดลงประมาณ 1% โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18,920 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ผู้ลงทุนกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดย PPI ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในระดับต้น ได้รายงานตัวเลขที่ต่ำกว่าและกระตุ้นให้เกิดการวิจารณ์ต่อพาวเวลล์อย่างรุนแรงจากทรัมป์ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวถึงพาวเวลล์ว่า...
มาตรฐานการซื้อขายบิตคอยน์ในชั่วโมงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ผันผวน โดยมีราคาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง $107,029 ถึง $107,290 ในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 ดัชนีมูลค่าตลาดของบิตคอยน์อยู่ที่ $2.13 ล้านล้าน และปริมาณการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุดนั้นสูงถึง $34.26 ล้านล้าน สถานการณ์การซื้อขายที่เกิดขึ้นนี้ส่งสัญญาณถึงความไม่แน่นอน โดยเบื้องต้นราคาขยับในกรอบตั้งแต่ $107,029 จนถึง $110,269 ซึ่งแสดงถึงความผันผวนที่ชัดเจนในเซสชันที่มักพบความเป็นขาลงในกรอบระยะสั้นและระยะกลาง ในการวิเคราะห์ระดับสูงขึ้น รายงานแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันจากฝั่งนักลงทุนบิตคอยน์นั้นดูเหมือนจะเริ่มลดลง โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายภายในอันดับราคาที่สูงขึ้นนั้นยังไม่สอดคล้องกับปริมาณการซื้อขายที่ลดต่ำลง...
ในการประชุมที่จัดโดยมอร์แกน สแตนลีย์ ณ เมืองนิวยอร์ก ไบรอัน มอยนีฮาน CEO ของแบงก์ออฟอเมริกา ได้เปิดเผยถึงการพัฒนาเหรียญ stablecoin ซึ่งเป็นแนวทางการเงินแห่งอนาคตที่ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่ มอยนีฮานเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงิน โดยกล่าวว่าหากธนาคารไม่รีบดำเนินการในเรื่องนี้ อาจจะเสียพื้นที่ทางธุรกิจให้กับบริษัทเทคโนโลยีที่มีกำลังแข่งขันอย่างเข้มข้น การเข้ามาแทนที่ของเหรียญ stablecoin กำลังเป็นสิ่งที่เศรษฐกิจทั้งในด้านการเงินและเทคโนโลยีต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคและธุรกิจมองหาวิธีการชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น มอยนีฮานกล่าวว่าสิ่งนี้จะไม่เพียงแต่ทำให้ธนาคารสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยังช่วยให้การให้บริการทางการเงินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความนิยมของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มอยนีฮานยังได้กล่าวถึงความท้าทายที่ธนาคารต้องเผชิญ หากไม่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจเช่น stablecoin...