หน่วยงานประกันเงินฝากของสหรัฐอเมริกา (FDIC) ได้ประกาศนโยบายใหม่ที่ให้การสนับสนุนต่อกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเปิดทางให้เกิดนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล และยกเลิกอุปสรรคสำคัญที่ก่อนหน้านี้ขัดขวางการพัฒนานี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ได้รับการเปิดเผยจากประธานคณะทำงานชั่วคราว Travis Hill ในการประชุมสุดยอดของสมาคมธนาคารอเมริกันเมื่อวันที่ 8 เมษายน โดย Hill กล่าวว่า FDIC มีความมุ่งมั่นในการสร้างความชัดเจนทางกฎหมายสำหรับภาคธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มแรก คณะกรรมการ FDIC ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางการเงินของผู้บริโภคเหนือสิ่งอื่นใด และที่ผ่านมา มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้บริการที่ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน นโยบายใหม่มุ่งหวังที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการฉ้อโกงและความเสี่ยงในอุตสาหกรรมนี้ แม้ว่าจะมีหลายธุรกิจที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับการกำกับดูแลที่เพียงพอ...
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ริคการ์ด นอร์ดิน ได้ทำการสอบถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เอลิซาเบธ สวานเทสสัน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการนำเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของสวีเดน ในคำถามที่ยื่นให้ในรูปแบบของการสอบถามเป็นลายลักษณ์อักษร นอร์ดินยังเสนอว่าเงินดังกล่าวอาจมาจากการนำบิตคอยน์ที่ถูกยึดโดยหน่วยงานตำรวจและศุลกากรมาใช้เป็นทุนสำรอง ความสนใจของสวีเดนในการนำบิตคอยน์เข้าสู่ทุนสำรองเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสโลกที่หลายประเทศเริ่มเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะทำการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการรวมสกุลเงินดิจิทัลในการทำธุรกรรมของประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความสนใจในบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ไม่ใช่เพียงความสนใจเกินจริง แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในโลกการเงินสมัยใหม่ หนึ่งในเหตุผลที่นอร์ดินเสนอให้รวมบิตคอยน์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ คือการเพิ่มความหลากหลายให้กับการลงทุน โดยเฉพาะการทำให้ทุนสำรองมีความมั่นคงยิ่งขึ้นในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจ ซึ่งบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำงานได้ดีในฐานะที่หลบเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อและยังช่วยทำให้ระบบการเงินมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น การอนุญาตให้มีการถือครองบิตคอยน์เป็นทุนสำรองเงินตราอาจเปิดโอกาสให้สวีเดนสามารถนำไปพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ ในอนาคตได้ และยังสามารถดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่สนใจในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว...
หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายในการจัดการกับสกุลเงินดิจิทัล ขณะที่การพัฒนาในด้านกฎระเบียบและกรอบการทำงานยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หลายรัฐบาลยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะเข้าหากับเงินดิจิทัลอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่ซับซ้อนและคาดเดายาก อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ มีสัญญาณว่าแนวทางในบางพื้นที่อาจกำลังเปลี่ยนไป ในยุโรป แม้กฎระเบียบจะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ยังคงมีการพัฒนาที่ค่อนข้างช้า ขณะที่ดูไบกลับกลายเป็นพื้นที่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในโลกของคริปโต ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดูไบได้ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล ด้วยนโยบายที่เป็นมิตรต่อธุรกิจและกรอบการกำกับดูแลที่มีความยืดหยุ่น ตลาดเงินดิจิทัลของดูไบได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีความคิดสร้างสรรค์เต็มเปี่ยม ซึ่งมอบโอกาสให้กับทุกฝ่ายที่มีความสนใจในด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน บริษัทเทคโนโลยี หรือนักพัฒนา ดูไบได้สร้างกรอบ regulatory sandbox...
การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่มีการใช้งานมากที่สุดในยุโรปอย่าง WhiteBIT ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้บน Coinglass แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสกุลเงินดิจิทัลที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอนุพันธ์ ซึ่งการประกาศได้รับการยอมรับทั้งในแวดวงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการลงทุนที่มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้ นับเป็นความสำเร็จอีกขั้นของ WhiteBIT ในการสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ได้รับนั้นมีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงินได้อย่างแม่นยำ Coinglass มีชื่อเสียงในด้านกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มงวด ผู้ที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้จะต้องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือและความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างถูกต้อง โดย WhiteBIT ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 6 จากจำนวน 19 แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนที่มีอยู่ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสามารถของ WhiteBIT ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เชื่อถือได้สำหรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาด Volodymyr Nosov ผู้ก่อตั้งและประธานของ WhiteBIT...
Ehrsam’s innovative venture, known as “Nudge,” aims to revolutionize how humans interact with technology by harnessing advancements in neuroscience. This startup intends to create cutting-edge devices...
Dogecoin’s recent market trajectory has been marked by significant volatility, particularly as it struggled to surpass crucial resistance levels. Despite this downturn, a growing number of...
Jim Cramer, the outspoken host of CNBC’s “Mad Money,” has raised concerns about a looming stock market crash reminiscent of the infamous Black Monday of 1987....
สำนักงานการควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศการติดตามและระบุตัวตนของกระเป๋าเงินดิจิทัลจำนวนแปดใบที่เชื่อมโยงกับกลุ่มฮูธี โดยกระเป๋าเหล่านี้ถูกใช้ในการโอนเงินสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธนี้ นอกจากนี้ OFAC ยังได้ทำการระบุหลายคนและองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายการเงินของฮูธี รวมถึงระบบที่มีการสนับสนุนจากหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อกลุ่มที่เป็นที่ถกเถียงในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลุ่มฮูธีได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธต่อเป้าหมายในซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐฯ มองว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทางการเงินจากอิหร่านซึ่งมีผลต่อเสถียรภาพของภูมิภาค ในการตอบโต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ใช้มาตรการต่างๆ ในการควบคุมความเคลื่อนไหวทางการเงินของความเคลื่อนไหวนอกจากการทำสงครามที่เกิดขึ้น การติดตามกลุ่มฮูธีและการเปิดเผยกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่สหรัฐในการต่อสู้กับการใช้สกุลเงินดิจิทัลในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนในยุคดิจิทัล ปัจจุบัน สกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มที่ซ่อนตัวจากการควบคุมของรัฐ การที่ OFAC เข้าตรวจสอบกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮูธี...
Ripple’s ongoing lawsuit with the U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) remains a focal point in the cryptocurrency community as stakeholders anticipate a resolution in the...
ในบทความนี้จะพิจารณายุทธศาสตร์การเก็บภาษีรองที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใช้ซึ่งมีผลกระทบอย่างชัดเจนต่อเวเนซุเอลา โดยจะมีการวิเคราะห์ความยากลำบากที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยุทธศาสตร์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองด้านเศรษฐกิจ ที่ได้อาจสร้างความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง การใช้การเก็บภาษีรองหรือ Secondary Tariffs ของทรัมป์มีเป้าหมายหลักในการตอบโต้การกระทำที่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในเวเนซุเอลา แม้ว่าฝ่ายบริหารจะหวังว่าจะสามารถบีบให้นโยบายของเวเนซุเอลาปรับเปลี่ยนได้ แต่ในทางกลับกันกลับมีโอกาสสูงที่จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนผู้บริโภคโดยตรงในสหรัฐฯ และประเทศในภูมิภาคต่างๆ การเก็บภาษีนี้ดูเหมือนจะเป็นการใช้วิธีการที่มีระดับสูงเกินไปในการจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อน การสำรวจข้อมูลสถิติทางเศรษฐกิจพบว่าการเก็บภาษีทั้งหมดจะสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าต่างๆ ได้มากกว่าที่คาดหวัง โดยภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคาสินค้าหลายประเภทยกระดับสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 35% ซึ่งเป็นภาระที่ทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกัน การบังคับใช้ภาษีที่เข้มงวดและซับซ้อนสามารถชักนำให้เกิดปฏิกิริยาจากพันธมิตรทางการค้า ซึ่งอาจหมายถึงหายนะสำหรับเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในกลุ่มอเมริกาใต้ ตัวอย่างเช่น การเลื่อนขายสินค้าระหว่างประเทศอาจเกิดขึ้นเพราะข้อจำกัดที่มากขึ้น ทำให้การค้าขายในระดับโลกถูกทำลายลงในที่สุด...