ความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบสกุลเงินดิจิทัลในสหรัฐอเมริกากำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในระบบการเงินของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ผลกระทบจากแรงสนับสนุนทั้งจากสองฝ่ายและการเติบโตของสถาบันการเงินที่เข้ามาร่วมกับตลาดการเงินดิจิทัล ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหมายความว่าไม่มีรัฐบาลใดในอนาคตสามารถย้อนกลับการพัฒนานี้ได้ การสนับสนุนจากสองพรรคนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มที่ชัดเจนของการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินหลักของประเทศ สถาบันการเงินสหรัฐฯ ได้เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการใช้สกุลเงินดิจิทัล ขณะเดียวกัน รัฐบาลทั้งในระดับรัฐและระดับประเทศก็กำลังเร่งพิจารณาและจัดทำกฎหมายเพื่อการควบคุมและการดูแลที่เหมาะสมกับตลาดนี้ การพัฒนานี้เกิดขึ้นหลังจากการเกิดของกฎหมายใหม่ที่บริหารจัดการสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสะสมเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบการเงิน และช่วยให้สกุลเงินดิจิทัลได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่มีชื่อเสียง ระบบการกำกับดูแลที่เหมาะสมทำให้เกิดการลงทุนจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้นและสนับสนุนให้เกิดการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศ การรับรู้ในด้านบวกต่อสกุลเงินดิจิทัลโดยสถาบันและองค์กรมหาชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความร่วมมือระหว่างบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทการเงินแบบดั้งเดิมก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรม นี้แสดงถึงการพัฒนาที่สำคัญเพราะแสดงถึงการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในวงกว้างจากทุกภาคส่วนของสังคม ปัจจุบัน สถาบันการเงินหลักๆ หลายแห่งได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เช่น กองทุน ETF ที่มุ่งเน้นสกุลเงินดิจิทัล...
ขณะนี้ สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายที่สำคัญซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมนี้ ในช่วงสัปดาห์คริปโตที่กำลังจัดขึ้น รัฐบาลสหรัฐได้พิจารณาร่างกฎหมาย GENIUS และ CLARITY รวมถึงกฎหมายต่อต้าน CBDC (Central Bank Digital Currency) ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะมีผลต่อโครงสร้างการเงินและการลงทุนในอนาคต เมื่อเร็วๆ นี้ คริปโตร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีการอภิปรายใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง โดยผลโหวตในครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากนี่จะเป็นร่างกฎหมายหลักฉบับแรกที่ถูกบรรจุลงในระบบนิติบัญญัติ ในระหว่างการลงคะแนนเสียง...
ราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2025 ราคาของบิทคอยน์อยู่ที่ 117,866 ดอลลาร์ เป็นผลมาจากการสนับสนุนจากมูลค่าตลาดรวมที่ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่มีมูลค่าถึง 49.313 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ช่วงราคาเคลื่อนไหวในระหว่างวันมีความแปรปรวน โดยมีราคาต่ำสุดที่ 117,715 ดอลลาร์ และสูงสุดที่ 120,008 ดอลลาร์ ส่งสัญญาณถึงความผันผวนที่ยังคงมีอยู่ในตลาดที่มีการรวมตัวกัน บิทคอยน์มีแนวโน้มที่ชัดเจนตามกราฟรายวัน...
บริษัท Talos ได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการบริษัท Coin Metrics ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลคริปโต เพื่อสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลและการจัดการการลงทุนด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบวงจร ซึ่งการทำธุรกรรมนี้มีมูลค่ามากกว่า 3,500 ล้านบาท (ประมาณ 100 ล้านบาท) นับเป็นการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดของ Talos จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองบริษัทมีความมุ่งหวังในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการข้อมูลในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยการรวมข้อมูลตลาด กราฟวิเคราะห์บล็อกเชน และดัชนีเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าซื้อ Coin Metrics นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ Talos ในการขยายบริการเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล...
Ripple ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Ctrl Alt เพื่อจัดหาโซลูชันการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบันให้กับโครงการการทำโทเค็นอสังหาริมทรัพย์ของกรมที่ดินดูไบ (DLD) การเคลื่อนไหวนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การรับรู้และการใช้งานทรัพย์สินดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว การทำงานร่วมกันระหว่าง Ripple และ Ctrl Alt จะช่วยเสริมความมั่นคงของการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับโฉนดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการทำโทเค็น ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำให้เกิดความโปร่งใสในการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ การใช้ XRP Ledger (XRPL) ในการจัดเก็บข้อมูลนับเป็นนวัตกรรมที่สามารถปรับปรุงความสามารถในการทำธุรกรรมและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การปรับใช้โทเค็นอสังหาริมทรัพย์เป็นการตอบสนองต่อการเติบโตของความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบดิจิทัล ซึ่งในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยกรมที่ดินดูไบมองเห็นศักยภาพของการทำโทเค็นในการสร้างตลาดที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส การทำโทเค็นสามารถช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมได้อย่างมาก เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ลงทุน นอกจากนี้...
Ripple ได้ประกาศความร่วมมือสำคัญกับ Ctrl Alt เพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ โดยความร่วมมือนี้เกี่ยวข้องกับโครงการของกรมที่ดินดูไบที่มีเป้าหมายในการใช้ XRP Ledger สำหรับการทำโทเค็นใบโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่นี้ การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ พร้อมทั้งทำให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและมีสภาพคล่องที่สูงขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเมือง ### Ripple และ Ctrl Alt สนับสนุนการทำโทเค็นอสังหาริมทรัพย์ในดูไบ Ripple ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือที่สำคัญกับ Ctrl Alt ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีการดูแลรักษาที่มีคุณภาพสูงของ Ripple เพื่อเก็บรักษาใบกรรมสิทธิ์ที่ดินในรูปแบบโทเค็นอย่างปลอดภัย โดยใบกรรมสิทธิ์เหล่านี้จะถูกออกโดยตรงบน XRP...
หน่วยงานรัฐในสหรัฐอเมริกาได้ประกาศยุติการสอบสวนแพลตฟอร์มการทำนายผลด้านการเข้ารหัสชื่อว่า Polymarket ซึ่งมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบภายใต้สมัยการบริหารงานของโดนัลด์ ทรัมป์ สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ได้แจ้งอย่างเป็นทางการถึง Polymarket ในเดือนนี้ว่าการสอบสวนเกี่ยวกับตลาดการคาดการณ์จะสิ้นสุดลง การสอบสวนดังกล่าวมีการเข้มข้นมากขึ้นในช่วงปลายรัฐบาลของโจ ไบเดน Polymarket เป็นแพลตฟอร์มการทำนายผลที่ให้ผู้ใช้สามารถเดิมพันเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งในด้านการเมือง กีฬาและอื่น ๆ โดยมีการทำงานภายใต้รูปแบบของการซื้อขายสัญญาที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการยุติการสอบสวนนี้อาจมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออนาคตของตลาดการทำนายผลดังกล่าว ในระหว่างการสอบสวน หน่วยงานรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของ Polymarket...
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเจฟฟรีย์ อีปสตีน กำลังกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ซึ่งทำให้โรน พอล นักวิจารณ์ประจำของอำนาจรัฐบาล ออกมาแสดงความเห็นว่าวิกฤตความเชื่อมั่นที่ลึกซึ้งกว่ากำลังเกิดขึ้น โดยพอลได้วิจารณ์คำแถลงล่าสุดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับอีปสตีน โดยเขาได้อ้างว่า การปฏิเสธว่ามีรายชื่อลูกค้าและการยืนยันถึงการฆ่าตัวตาย—แม้จะมีหลักฐานที่ขัดแย้ง—เป็นการแสดงออกถึงรูปแบบการหลอกลวงที่กว้างขวางกว่าในหน่วยงานของรัฐบาล พอลซึ่งเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มาก่อน ได้มีการวิจารณ์การกระทำของรัฐบาลในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะความโปร่งใสและความรับผิดชอบ เขาเชื่อว่ารัฐบาลมีความผิดปกติในการให้ข้อมูลแก่ประชาชน และวิกฤตนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของอีปสตีนเท่านั้น แต่เป็นปัญหาในวงกว้างที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐ หนึ่งในประเด็นที่พอลยกขึ้นคือ การจัดการกับข้อมูลที่ปรากฏออกมาเกี่ยวกับอีปสตีน เขาชี้ให้เห็นว่าเมื่อมีข้อสงสัยหรือข้อพิพาทเกิดขึ้น รัฐบาลมักจะเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการตอบคำถามแทนที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้กับประชาชน ซึ่งสร้างความไม่ไว้วางใจในองค์กรรัฐ รวมถึงความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม การสนทนาเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในหน่วยงานรัฐบาล รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย...
ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา, FDIC และสำนักงานตรวจสอบสกุลเงิน (OCC) ได้ออกแถลงการณ์ร่วม เพื่อนำเสนอแนวทางใหม่เกี่ยวกับการให้บริการการดูแลและเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Custody) สำหรับธนาคารในสหรัฐฯ เป้าหมายของแถลงการณ์นี้คือ เพื่อให้ธนาคารที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือกำลังพิจารณาในการเก็บรักษาสินทรัพย์คริปโตสำหรับลูกค้า ได้เข้าใจแนวทางที่เหมาะสม ธนาคารจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดก่อนที่จะให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล แถลงการณ์ดังกล่าวย้ำว่าธนาคารต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการปฏิบัติตามและการจัดการความเสี่ยงที่มีอยู่ ซึ่งเน้นที่การดูแลรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลในนามของลูกค้า โดยมีการแยกประเภทการเข้าร่วมจากการเป็นผู้จัดการที่มีหน้าที่รับผิดชอบทางกฎหมาย (fiduciary role) หรือในฐานะผู้ให้บริการการเก็บรักษาที่ไม่มีหน้าที่บริหาร (non-fiduciary role) ขึ้นอยู่กับข้อตกลงการให้บริการและข้อกำหนดทางกฎหมาย ในกรณีที่ธนาคารเก็บกุญแจการเข้ารหัส (cryptographic keys) ไว้...
ตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีที่มีการจัดตั้ง “กลยุทธ์เงินสำรองบิตคอยน์” อย่างเป็นทางการ แหล่งข่าวรายงานว่า มูลค่าของเงินสำรองบิตคอยน์ของรัฐบาลสหรัฐได้พุ่งขึ้นเกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่มีทั้งโอกาสและอุปสรรคที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ระยะเวลาหลายปีก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เผชิญกับความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน และรัฐบาลสหรัฐได้มีการปล่อยบิตคอยน์ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มสนับสนุนให้ประเทศมีส่วนร่วมในสกุลเงินดิจิทัล มูลค่าของเงินสำรองบิตคอยน์กลับกลายเป็นว่าทวีค่าอย่างรวดเร็วและมีผลกระทบที่สำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา หลายผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินมองว่า การเพิ่มขึ้นของมูลค่าบิตคอยน์นั้นเกิดจากหลายปัจจัย ที่สำคัญคือความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนและประชาชนทั่วไป เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลได้รับการยอมรับมากขึ้นในรูปแบบของการชำระเงินและการลงทุน นอกจากนี้ การรุกคืบของสถาบันการเงินที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดบิตคอยน์ยังได้ช่วยเพิ่มมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลนี้อย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกที่หลายประเทศเริ่มมีการเปิดรับและปรับตัวให้เข้ากับสกุลเงินดิจิทัลในแนวทางที่เป็นทางการมากยิ่งขึ้น การดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาสู่ตลาดบิตคอยน์นั้นทำให้เกิดความต้องการที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ...