ในวันที่ 22 เมษายน 2025 ค่าเงินบิตคอยน์ได้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาอยู่ที่ 88,447 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ การซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวในช่วงแคบระหว่าง 86,664.84 ดอลลาร์ ถึง 88,874 ดอลลาร์ โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 36.36 พันล้านดอลลาร์ โดยสภาวะตลาดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการระมัดระวังในระหว่างการปรับขึ้นที่กำลังเกิดขึ้น การวิเคราะห์กราฟในช่วงชั่วโมงที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างการรวมตัวกันของราคาบิตคอยน์ซึ่งสามารถสังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ...
Circle has unveiled its new Circle Payments Network (CPN), a strategic initiative aiming to reshape the future of cross-border transactions. This launch places Circle directly into...
สัปดาห์นี้เห็นการถดถอยครั้งใหญ่ในดัชนีหุ้นสหรัฐอเมริกาทั้งสี่ตัวสำคัญ ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลงราว 1.4% ขณะที่ดัชนี NASDAQ ก็ประสบกับการลดลงอย่างหนักเช่นกัน ข้อมูลจากตลาดแสดงให้เห็นว่าความไม่แน่นอนทางการค้าได้จุดประกายความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น เช่น บิทคอยน์และทองคำ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยรัฐบาลสหรัฐยังคงมีการพิจารณากฎระเบียบใหม่ๆ ที่มีผลกระทบต่อการค้าและธุรกิจภายในประเทศ เมื่อการแจ้งข่าวเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนในนโยบายการค้ายังคงซับซ้อน นักลงทุนหลายคนเลือกที่จะถอนเงินทุนจากตลาดหุ้นเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่คาดว่าจะปลอดภัย ความสนใจในเหรียญดิจิทัล เช่น บิทคอยน์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.8% เมื่อวานนี้...
Goldman Sachs has recently issued a stark warning regarding the future of the U.S. dollar, predicting a significant decline amid rising tariffs and stagnating economic growth....
เหตุการณ์ทางกฎหมายที่สำคัญเกี่ยวกับการเก็บรักษาทรัพย์สินในสกุลเงินดิจิทัลเกิดขึ้นเมื่อศาลแมสซาชูเซตส์ได้ออกคำตัดสินเกี่ยวกับการฟ้องร้องธนาคารซานตันเดอร์ (Santander) ด้วยข้อกล่าวหาว่าละเลยในการปกป้องลูกค้าจากการโจรกรรมที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโต มีการทดลองและอ้างอิงในคำตัดสินที่ยืนยันว่า ธนาคารไม่มีหน้าที่ทางกฎหมายในการหยุดยั้งธุรกรรมที่ลูกค้าอนุญาตไว้ แม้ว่าจะมีการอ้างว่าลูกค้าได้รับผลกระทบจากการฉ้อโกงครั้งใหญ่ คำตัดสินนี้เกิดขึ้นหลังจากลูกค้าคนหนึ่งได้ยื่นฟ้องธนาคารโดยกล่าวหาว่าตนได้รับความเสียหายกว่า 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ผู้ฟ้องร้องอ้างว่าธนาคารควรมีความรับผิดชอบต่อการปกป้องลูกค้าในกรณีที่มีการฉ้อโกงเกิดขึ้นในระหว่างการใช้บริการ ศาลได้เน้นย้ำถึงแนวทางการควบคุมธุรกรรมทางการเงิน ว่าการทำธุรกรรมที่ได้รับการอนุมัติจากลูกค้าทำให้ธนาคารไม่มีภาระผูกพันในการสืบสวนหรือหยุดยั้ง เมื่อมีการดำเนินการไปตามขั้นตอนที่ลูกค้าได้อนุมัติ ชุดการตัดสินใจนี้ส่งผลให้ลูกค้าต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนเองในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ประเด็นนี้ไม่ได้เป็นเพียงการตัดสินเกี่ยวกับซานตันเดอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่กว้างกว่าที่ผู้ใช้บริการจะต้องเผชิญในการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนดังกล่าวก็เพิ่มขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการฉ้อโกงและการโจรกรรม หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณาคือการที่สถาบันการเงินหรือแพลตฟอร์มการเทรดไม่สามารถให้การปกป้องประจำวันที่เพียงพอ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลมักดำเนินการในลักษณะที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ และการไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ก่ออาชญากรร้ายแรงทำให้การฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนสิ่งที่สูญหายเป็นเรื่องยาก ความคิดเห็นจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินและกฎหมายได้ชี้ให้เห็นว่า การที่ผู้ใช้บริการจะลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนั้น...
Vietnam is making significant strides in the realm of cryptocurrency by announcing plans to establish a pilot national exchange, an initiative that could reshape the landscape...
การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกการเงิน โดยล่าสุดประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) เจอโรม พาวเวลล์ ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในแนวนโยบายการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อเขาให้คำกล่าวในงานที่คลับเศรษฐกิจของชิคาโกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยชี้แจงเกี่ยวกับการส่งเสริมการนำเข้าสินทรัพย์ดิจิทัล สัญญาณนี้ส่งมาจากการยอมรับที่สูงขึ้นซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการที่สินทรัพย์เหล่านี้ได้เริ่มถูกนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยนและการลงทุนมากขึ้นในตลาดสหรัฐ ปัจจุบัน สินทรัพย์ดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายด้าน เช่น การเงินส่วนบุคคล การลงทุน และแม้กระทั่งธุรกิจใหญ่ๆ หลายแห่งที่หันมาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ความเคลื่อนไหวนี้นำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และทำให้ธนาคารกลางต้องการนำเสนอกรอบการควบคุมที่เหมาะสม พาวเวลล์ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับโครงสร้างกฎระเบียบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ แทนที่จะแช่แข็งไว้เพียงในกฎเกณฑ์เดิมที่ไม่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล นโยบายใหม่ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเอื้อให้สถาบันการเงินเข้ามามีบทบาทในการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สินทรัพย์ประเภทนี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม...