รัฐบาลสเปนกำลังดำเนินการตามกฎหมายใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจสอบภาษีจากคริปโตเคอเรนซี โดยคาดว่าจะมีการอนุมัติและเริ่มมีผลบังคับใช้ภายในเดือนมกราคมปี 2026 ที่จะถึงนี้ กฎหมายนี้จะช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ในสเปนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกถือครองอยู่ในตลาดทั่วโลก ซึ่งจะทำให้การติดตามและตรวจสอบการทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัลมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทางการสเปนมุ่งหวังว่ากฎหมายนี้จะช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตเคอเรนซี ในขณะที่ปลอดภัยจากการหลีกเลี่ยงภาษี การเข้าสู่กฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัลไม่เพียงแต่จะทำให้รัฐสามารถเก็บรายได้ภาษีจากทรัพย์สินเหล่านี้ได้มากขึ้น แต่ยังช่วยป้องกันกิจกรรมทางอาญาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ความสามารถในการยึดสินทรัพย์ดิจิทัลจะช่วยให้สำนักงานจัดเก็บภาษีของสเปนมีอำนาจมากขึ้นในการจัดการกับการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตโดยตรง หากเจ้าของสินทรัพย์ไม่สามารถชำระภาษีหรือหนี้สินที่เกิดจากการลงทุนในคริปโตได้ สำนักงานดังกล่าวจะสามารถดำเนินการยึดสินทรัพย์เหล่านั้นได้ โดยไม่ต้องรอการตัดสินของศาล ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการยึดสินทรัพย์มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรวมแล้ว การดำเนินการนี้ถือเป็นการปรับปรุงขั้นตอนในการจัดการภาษีเกี่ยวกับคริปโตที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเจริญเติบโตของตลาดคริปโตเคอเรนซีอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเปิดตัวกฎหมายนี้มีความสำคัญในแง่ของการปรับมาตรการด้านกฎหมายให้เข้ากับการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็ว สเปนมีแผนที่จะแนะนำมาตรการเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการศึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในสถาบันการศึกษา รวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในการจัดเก็บภาษีสำหรับธุรกิจและบุคคลที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล การรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้ใช้บริการได้มีความมั่นใจในระบบการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล การเพิ่มมาตรการที่มีประสิทธิภาพจะมีความจำเป็นในโลกที่มีการใช้งานคริปโตเคอเรนซีเพิ่มมากขึ้นอยู่ในขณะนี้...
กลุ่มบริษัทการลงทุนชั้นนำได้เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) พิจารณากลับคืนกฎการจัดอันดับการยื่นฟ้องเพื่อปกป้องนวัตกรรมในตลาด ETF สกุลเงินดิจิทัลและป้องกันการครอบงำตลาดที่เกิดจากบริษัทใหญ่ ในการลงนามจดหมายร่วมกันโดยผู้บริหารจากบริษัทบริหารสินทรัพย์เบาเนค (Vaneck), แคนารีแคปิตอล (Canary Capital) และ 21Shares พวกเขาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระเบียบการยื่นฟ้อง ซึ่งทำให้บริษัทที่ยื่นฟ้องช้าได้รับความได้เปรียบจากบริษัทที่มีการแข่งขันในตลาด. ตามข้อมูลที่เปิดเผย บริษัทที่ได้รับการล่าช้าในการยื่นฟ้อง ETF สกุลเงินดิจิทัลจากที่ปรึกษาใหญ่ ๆ ได้ถูกมองว่าเป็นการขัดขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมนี้ ในขณะที่นักลงทุนและผู้ที่สนใจเริ่มให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากขึ้น ในจดหมายที่ส่งถึงประธาน SEC นั้น ผู้บริหารได้เรียกร้องให้มีการนำกฎการจัดลำดับการยื่นฟ้องกลับมาใช้ใหม่ โดยเน้นย้ำว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรจำนวนมากสามารถใช้ประโยชน์จากระบบที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้....
รายงานจาก CNBC ระบุว่าครอบครัวไทฮุตตู หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ครอบครัวบิตคอยน์” ได้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยของพวกเขาเนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ลักพาตัวที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก หลังจากที่เป็นข่าวเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ชัดเจน นักลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลต่างระมัดระวังและปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บรักษาสินทรัพย์ของตน ดิดี้ ไทฮุตตู หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวนี้ ได้กล่าวกับแมคเคนซี่ ซิกาลอส ผู้สื่อข่าวจาก CNBC ว่าครอบครัวของเขาได้ยกเลิกการใช้กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์แบบดั่งเดิม และหันมาใช้อุปกรณ์เก็บรักษาที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ได้แก่ “Steel Seeds” ซึ่งเป็นแผ่นเหล็กที่ใช้สำหรับบันทึกคีย์ส่วนตัว หรือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการถูกลักพาตัว โดยเฉพาะเมื่อมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลักพาตัวที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่นั้นถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา...
ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 8:00 น. ตามเวลาในฝั่งตะวันออก ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 104,881 ดอลลาร์ถึง 105,266 ดอลลาร์ โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.07 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับปริมาณการซื้อขายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ประมาณ 25.3 พันล้านดอลลาร์ ช่วงขอบเขตราคาตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ระหว่าง 103,655 ดอลลาร์ถึง 105,213 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการรวมตัวที่มีเสถียรภาพก่อนการเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้...
ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเร่งการสะสมทองคำในปี 2025 เนื่องจากความไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพการเงินของสหรัฐฯ และการลงทุนในดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลกนี้กำลังขับเคลื่อนการซื้อทองคำอย่างมากเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน โดยเกิดขึ้นในช่วงที่มีความตึงเครียดของระบบการเงินโลกและการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการคลังของประเทศต่าง ๆ จากการศึกษาล่าสุดพบว่าธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกได้เพิ่มปริมาณทองคำในคลังของตนอย่างมีนัยสำคัญ โดยการซื้อทองคำในปีนี้เติบโตขึ้นถึง 41.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่ชัดเจนในการลดความพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐและเพิ่มความมั่นคงทางการเงินโดยการเลือกทองคำเป็นสินทรัพย์สำรอง นโยบายนี้เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางการเงินในสหรัฐ และความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจากประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการสร้างระบบการเงินที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา การซื้อทองคำของธนาคารกลางได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศต่าง ๆ อย่างจีน, รัสเซีย และอินเดียได้แสดงความสนใจในการสะสมทองคำ พวกเขาเริ่มมองหาทางเลือกอื่นเพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์ ซึ่งทำให้มีสัดส่วนการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน...
มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นทิศทางที่ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETFs) ของบิทคอยน์และอีเธอร์ บิทคอยน์ ETFs เผชิญกับการไหลออกของเงินทุนอย่างหนักเมื่อมีการถอนเงินสุทธิประมาณ 278 ล้านดอลลาร์ อันเกิดจากการถอนเงินจากกองทุนใหญ่จำนวนเจ็ดกองทุน ขณะที่กองทุนอีเธอร์กลับมีการไหลเข้าที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บิทคอยน์ ETFs พบกับการลดลงนั้น กองทุนอีเธอร์แสดงศักยภาพในทางตรงกันข้าม โดยสามารถสร้างกระแสเงินลงทุนเข้ามาได้มากถึง 11.5 ล้านดอลลาร์ตลอดระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในตลาดอีเธอร์ นี่ถือเป็นช่วงที่น่าจับตามอง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองหาทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในตลาดสกุลเงินดิจิทัล การไหลออกของเงินทุนจากบิทคอยน์ ETFs...
Yuga Labs ผู้สร้าง Bored Ape Yacht Club ได้เสนอให้ยุติการดำเนินการของ Apecoin DAO ซึ่งเป็นองค์กรที่มีการกระจายอำนาจ โดยวางแผนที่จะโอนทรัพย์สินไปยังหน่วยงานใหม่ที่มีชื่อว่า Apeco เพื่อเร่งการเติบโตของระบบนิเวศ โดย Greg Solano ซีอีโอของ Yuga Labs ได้กล่าวถึงแผนการนี้อย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุมล่าสุด การยุติ Apecoin DAO เป็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง เนื่องจาก...
การเปลี่ยนแปลงทิศทางการลงทุนของนักลงทุนจากตลาดสหรัฐเริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้น เนื่องจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อให้เกิดสงครามการค้ากับหลายประเทศนั้น ทำให้นักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของสถานการณ์ดังกล่าว และหันเหการลงทุนไปยังตลาดอื่น ๆ โดยเฉพาะในยุโรป หลายรายงานชี้ให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการค้า ภายใต้นโยบายของทรัมป์ ที่ในการดำเนินการดังกล่าว มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในระยะยาว ความเสี่ยงที่สูงขึ้นในตลาดสหรัฐไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การซื้อขายหุ้น แต่ยังรวมไปถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น อสังหาริมทรัพย์และพันธบัตรที่ออกโดยรัฐในยุโรป เมื่อพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการลงทุนดังกล่าว นักลงทุนหันมาพิจารณาเลือกหลบเลี่ยงจากตลาดที่มีความผันผวน และหันไปสู่ตลาดที่มีเสถียรภาพมากกว่า นอกจากนี้ การปรับตัวนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่สูงขึ้นในด้านการลงทุนอย่างชาญฉลาดและเพื่อความมั่นคงในระยะยาว นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินหลายแห่งได้แสดงความเห็นว่า การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนนี้อาจสร้างโอกาสใหม่ให้กับนักลงทุนในตลาดยุโรป โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับสหรัฐ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความได้เปรียบในการลงทุน นักลงทุนในยุโรปมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน...
บราซิลได้เข้าสู่การอภิปรายสาธารณะเกี่ยวกับคำสั่งบริหารที่จะเพิ่มภาษีธุรกรรมทางการเงินที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยรัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลเพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก การจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมสกุลเงินคริปโตนั้นเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในบราซิล โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกำลังพิจารณาแนวทางในการเพิ่มรายได้จากการเก็บภาษี ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลมีบทบาทที่สำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ในระบบการเงินของประเทศ ความเคลื่อนไหวนี้จึงได้รับการจับตามองทั้งในแง่ของผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวของนักลงทุน ทางการบราซิลเชื่อว่าการจัดเก็บภาษีจากการทำธุรกรรมคริปโตจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเพิ่มภาษีธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น โดยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ที่ต้องใช้เงินสดเพื่อชำระ การกำหนดอัตราภาษีที่เหมาะสมสำหรับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลจะเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยรัฐบาลจะต้องพิจารณาถึงความสามารถในการแข่งขันของตลาดคริปโตบราซิล ประกอบกับข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและระบบกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ การสร้างกฎระเบียบที่ยืดหยุ่นและชัดเจนจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับการเก็งกำไรและการฟอกเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่รัฐบาลต้องพิจารณา นโยบายที่เข้มงวดอาจช่วยลดความเสี่ยงนี้ แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวกในการเข้าถึงและการใช้งานสำหรับประชาชนทั่วไป บราซิลมีฐานผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อการลงทุนและการทำธุรกรรมทางการเงิน สถิติแสดงให้เห็นว่ามีการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นกว่า...
การเสนอขายหุ้นครั้งแรกของ Circle Internet Group ได้รับผลตอบรับที่เกินความคาดหมาย โดยมีความต้องการที่สูงถึง 25 เท่าของจำนวนหุ้นที่มีให้บริการ หุ้นถูกตั้งราคาไว้ที่ 31 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งส่งผลให้สามารถระดมทุนได้ถึง 1.05 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าของ Circle อยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์ ความสำเร็จของการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากขุมทรัพย์ของวงการเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณว่าตลาดต่อสู้เพื่อการฟื้นตัว ต่อเนื่องตั้งแต่เกิดไวรัสโควิด-19 สะท้อนให้เห็นว่าบรรยากาศการลงทุนในเทคโนโลยีการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงมีผลบวกอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่าตัวแทนของชุมชนการเงินได้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสนับสนุนการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ ซึ่งมีความต้องการจากนักลงทุนระดับสถาบันอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนมีความมั่นใจในอนาคตที่สดใสของ...