Altcoins
Blackrock Reports Bitcoin Adoption Surpasses Growth Rates of Internet and Mobile Phones
การนำคริปโตเคอเรนซีเข้าสู่ตลาดมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บิทคอยน์ ที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในปัจจุบัน รายงานการวิเคราะห์ตลาดล่าสุดจาก BlackRock บริษัทการลงทุนชั้นนำได้ชี้ให้เห็นว่าการรับบิทคอยน์นั้นมีอัตราการเติบโตสูงกว่าการเติบโตของอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
ตามข้อมูลจาก BlackRock อัตราการนำเข้าสู่ตลาดของบิทคอยน์เติบโตขึ้นประมาณ 41.5% ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของการเติบโตของอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในอดีต ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ เช่น กองทุนรวมบิทคอยน์และไนฟ์สมาร์ทโฟนที่รองรับบล็อกเชน
การเติบโตนี้เน้นให้เห็นว่าบิทคอยน์ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เพียงแต่ให้ผลตอบแทนดี แต่ยังเป็นเครื่องมือที่เพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายการลงทุนอีกด้วย สถิติจากการวิจัยประกอบด้วยข้อมูลว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสินทรัพย์ดิจิทัลมีค่าตลาดรวมที่สูงขึ้นจากประมาณ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 เป็นกว่า 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งช่วยเสริมความเข้าใจในทิศทางของการพัฒนาในอนาคต
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกได้ริเริ่มยอมรับคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น หน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศเริ่มเขียนกฎระเบียบที่ชัดเจนเพื่อสร้างกรอบสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ผลจากกระบวนการนี้ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบันหลายรายมองว่าบิทคอยน์เป็นเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นสำหรับการแบ่งปันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาดหุ้น นักลงทุนใหญ่ในโลกการเงินไม่ว่าจะเป็น Fidelity, Goldman Sachs หรือ JPMorgan ก็เริ่มสนใจและเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการนำเสนอโอกาสในการลงทุนใหม่ให้กับลูกค้าของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก BlackRock ได้ตั้งข้อสังเกตว่าท่ามกลางการเติบโตที่น่าทึ่งนี้ ยังมีความท้าทายอยู่มากเช่นกัน ทั้งความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การถูกโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ หรือแม้กระทั่งปัญหาด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
การศึกษาโดย BlackRock ยังเผยให้เห็นว่านักลงทุนนั้นมีการตัดสินใจลงทุนในคริปโตฯ อย่างมีกลยุทธ์ โดยนำข้อมูลที่ได้รับจากการวิเคราะห์และแนวโน้มของตลาดมาพิจารณา องค์กรการลงทุนจึงพยายามสร้างเครื่องมือและกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้ง่ายยิ่งขึ้น
สิ่งเหล่านี้เติบโตบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในวิธีที่ผู้คนมองสินทรัพย์และการลงทุน ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจหลายแห่งเริ่มนำเงินไปลงทุนในคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น การใช้บิทคอยน์เป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมทางการเงินก็เริ่มปรากฏให้เห็นในตลาดไทย และหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
แวดวงคริปโตไม่เพียงแค่เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี แต่ยังเป็นโอกาสที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ยังมีการพัฒนาไม่มากนัก การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในอนาคต เชื่อได้ว่าบิทคอยน์จะยังคงนำเสนอศักยภาพในการเติบโตและพัฒนาในตลาดต่อไปตลอดทั้งปีและในอนาคต.