Altcoins
Bitcoin Surges Amidst US-China Trade Tensions as Trump Dismisses Tariff Negotiation Hopes
ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นเรื่องที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณที่คลุมเครือเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องภาษีขาเข้าส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในระดับโลก แม้ว่าจะมีสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่าจีนเริ่มลดอัตราภาษีต่อสินค้าจากสหรัฐฯ แต่ทรัมป์กลับยังไม่ได้เสนอเบาะแสที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนสงสัยว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนหรือไม่
เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานออกมาว่าจีนกำลังลดอัตราภาษีต่อผลิตภัณฑ์จากสหรัฐฯ เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์และยาที่สำคัญ การใช้มาตรการเช่นนี้เห็นได้ว่าเป็นความพยายามในการลดแรงกดดันต่อภาคเทคโนโลยีของจีน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธความตั้งใจในการหยุดภาษีเหล่านี้ โดยอ้างว่ามีการสนทนาต่อเนื่องกับจีน รวมทั้งยืนยันว่าประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้โทรศัพท์ติดต่อกับเขาโดยตรง แต่รัฐบาลจีนกลับปฏิเสธคำกล่าวนี้อย่างชัดเจน
โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “จีนและสหรัฐฯ ไม่มีการปรึกษาหารือหรือต่อรองเกี่ยวกับเรื่องภาษี” ขณะเดียวกันก็ขอให้สหรัฐฯ หยุดสร้างความสับสน แต่อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้อ้างว่าเขาอาจพิจารณาถอดถอนภาษีที่มีต่อจีน แต่เพียงแค่ถ้าปักกิ่งเสนอสิ่งตอบแทนที่มีความหมาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนสงสัยเกี่ยวกับสถานะที่แท้จริงของการเจรจาและผลที่เกิดขึ้นต่อการค้าระดับโลก
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่ายส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจโลก โดยภาษีที่ถูกเรียกเก็บในระหว่างการค้าได้ทำให้การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเกิดการยุติลงอย่างมีนัยสำคัญ สหรัฐฯ ได้เรียกเก็บภาษี 146% ต่อสินค้าจากจีน ในขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยภาษี 126% ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ การกระทำต่างๆ เหล่านี้ได้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสำหรับธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลก
ในขณะเดียวกัน ตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้มีการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญ แม้ว่าเหตุการณ์ภาษีเหล่านี้จะส่งผลกระทบ แต่ก็ดูเหมือนว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลจะมีการพุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งนำไปสู่การคาดการณ์ว่าภาพรวมการเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นเพียงการฟื้นตัวที่หลอกลวง ซึ่งนำไปสู่ความคาดหวังว่าจะมีการตกต่ำที่รุนแรงในอนาคต
ราคา Bitcoin ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึง $95,300 ในวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างหันมามองสกุลเงินดิจิทัลในฐานะที่เป็นที่มั่นของมูลค่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน คล้ายกับที่เห็นการซื้อทองคำในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าหากราคา Bitcoin ทำการทะลุผ่านแนวต้านนี้ อาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะพุ่งขึ้นไปยังระดับ $126,000 อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณการกลับตัวที่เกิดขึ้นในตลาดซึ่งทำให้หลายคนกังวลกับราคาที่อาจจะดิ่งลงไปถึง $62,000
Ethereum ก็มีการเคลื่อนไหวที่คล้ายกัน โดยราคาตอนนี้เผชิญกับแนวต้านที่ประมาณ $1,800 หากราคา Ethereum สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ $2,000 ในไม่ช้า แต่หากไม่สามารถรักษาราคาไว้เหนือระดับนี้ได้ อาจเกิดการตีกลับไปยังแนวรับที่ระดับ $1,500
นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น XRP, Cardano (ADA), Solana (SOL), Dogecoin (DOGE) และ Sui (SUI) ก็มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยได้พุ่งขึ้นระหว่าง 6% ถึง 66% ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามที่นักวิเคราะห์ Michael van de Poppe ได้กล่าวถึงว่ากลุ่ม Altcoins นี้กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นในรูปแบบการกลับตัวที่อาจนำไปสู่การ Rally ที่รุนแรงในอนาคต
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลในขณะที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยิ่งทำให้นักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้น ขณะนี้ยังเหลือเหล่านักเศรษฐศาสตร์และผู้ลงทุนที่จับตามองอย่างใกล้ชิดต่อการเปลี่ยนแปลงทางการค้าระหว่างสองประเทศนี้ เพราะมันอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกในระยะอันใกล้