Bitcoin Struggles as Market Faces Sell-Off, Dropping to $91,215 Amidst 2.5% Crypto Economy Decline

ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดอย่างบิตคอยน์ พิสูจน์ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ตกต่ำ หลังจากที่ราคาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในวันที่เกือบ $91,215 โดยสะท้อนให้เห็นถึงการลดลงมากกว่า 3% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ มูลค่ารวมของเศรษฐกิจคริปโตยังหดตัวลงประมาณ 2.5% ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้รวมมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ราว $3.22 ล้านล้าน ดอลลาร์

สาเหตุของตกลงนี้ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการรวมถึงงานประกาศค้นหานโยบายในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ การมีความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมและกฎระเบียบใหม่ ๆ สามารถทำให้ผู้ลงทุนชะลอการตัดสินใจลงทุนหรือขายออกมาจากตลาด ส่งผลให้ราคาตกต่ำลงเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2023 ราคา bitcoin รวบรวมหลายช่วงเวลาเชิงบวก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกในวงการต่างเริ่มใช้กลยุทธ์ที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้ได้รับผลกระทบหลัก ๆ ได้แก่ เทรดเดอร์และนักลงทุนมือใหม่ ที่ต้องเผชิญกับภาวะตลาดที่แปรปรวน ในขณะที่นักลงทุนมืออาชีพอาจมองหาช่วงเวลาที่น่าสนใจในการซื้อในขณะที่ราคาอยู่ในระดับที่ต่ำ

ในระดับกว้างขึ้น คริปโตเคอเรนซีกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการต่อสู้อีกหลายประการ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ ที่สร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง ช่วยชี้ให้เห็นแนวโน้มการขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คริปโตเคอเรนซียังคงเปิดเสรีแปลกใหม่ ที่บริษัทใหญ่อย่าง เชนลิงก์ และเอดา ตอบสนองต่อการลงนามในเทศกาลการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว ซึ่งอยู่เบื้องหลังความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคเอกชน หนึ่งในสัญญาณของการเติบโตนี้คือการเติบโตของโครงการ DeFi (การเงินที่กระจายศูนย์) ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการปรับราคาที่ลดลง

ในด้านอื่น ๆ ตลาดยังคงขับเคลื่อนได้รับแรงหนุนจากการใช้งาน NFT และ Metaverse ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่ช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่การเข้ารหัสชั้นสูงได้รับความนิยม อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้ทั้งตลาด NFT และ Metaverse ยังคงเผชิญกับการสอบถามและการกลับมาเป็นอย่างมาก

นอกจากนั้น นักลงทุนหลายรายเริ่มแสดงความระมัดระวังในการตัดสินใจเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนของตน ด้วยการตรวจสอบสถานการณ์ทั่วโลกอย่างใกล้ชิด เช่น ประเด็นสงครามในยูเครนและความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่สามารถส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก สถานการณ์เช่นนี้สามารถทำให้ผู้ลงทุนใช้กลยุทธ์ที่มีการลดความเสี่ยงมากขึ้นในพอร์ตการลงทุนของตน

แนวโน้มที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้หลายฝ่ายความกังวลว่าอนาคตของบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมจะถูกกำหนดโดยปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรัฐบาล การใช้เทคโนโลยีใหม่ หรือการย้อนกลับของดัชนีหุ้น

มุมมองวิเคราะห์สำหรับบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆในช่วงต่อไป จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟื้นตัวจากการลดลงในปัจจุบัน ตลาดอาจจะมีการปรับตัวและฟื้นตัวในระยะยาวหากมีการพัฒนาเชิงบวกในด้านเทคโนโลยี blockchain และการสร้างกรณีใช้ที่ชัดเจนขึ้นสำหรับสินทรัพย์เหล่านี้ ขวัญและกำลังใจของนักลงทุนจะเป็นตัวกำหนดระดับความน่าสนใจในการลงทุนในอนาคต ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างเหมาะสมในระยะยาว.