Bitcoin Faces Minor Drop as Trump Criticizes Jerome Powell, Calling Him a ‘Numbskull’

ราคาบิทคอยน์ประสบปัญหาลดลงในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกเลิกคำตำหนิต่อเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยกล่าวว่าการตัดสินใจของเขาเกี่ยวกับนโยบายการเงินมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ท่ามกลางการประกาศข้อมูลจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าความคาดหมาย

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ลดลงประมาณ 1% โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 18,920 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ผู้ลงทุนกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดย PPI ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในระดับต้น ได้รายงานตัวเลขที่ต่ำกว่าและกระตุ้นให้เกิดการวิจารณ์ต่อพาวเวลล์อย่างรุนแรงจากทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวถึงพาวเวลล์ว่า “เราจะใช้จ่ายเงิน 600,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีเพราะอาการไร้สติของคนคนหนึ่ง” การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวของทรัมป์ถือเป็นอีกหนึ่งความเห็นที่สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และบิทคอยน์ก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากสถานการณ์นี้

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการทำงานของเฟดในปัจจุบันนั้นมีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากต้องพัฒนานโยบายการเงินให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่เงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการต่างๆ และมีความเสี่ยงในการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายๆ ประเภท เช่น น้ำมัน และ โลหะมีค่า มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากการขาดแคลนซัพพลายและความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจช่วยผลักดันให้ปริมาณเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และเป็นเหตุผลที่ทำให้ความไม่แน่นอนในตลาดคริปโตทั่วโลกยังคงมีอยู่ไม่จบสิ้น

นักลงทุนในบิทคอยน์อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากความผันผวนที่มากขึ้นส่งผลถึงส่วนต่างกำไร โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน นักลงทุนหลายคนกำลังเรียกร้องให้เฟดพิจารณานโยบายการเงินที่ยั่งยืนมากขึ้นเพื่อลดแรงกดดันอันเกิดจากการพยากรณ์เงินเฟ้อที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงของตลาดการเงิน

ด้านอื่น ๆ นักลงทุนบางกลุ่มยืนกรานว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถือเป็นโอกาสในการลงทุน เนื่องจากบิทคอยน์ยังคงมีศักยภาพในการฟื้นฟูในระยะยาวแม้ว่าจะมีการลดราคาชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่สินค้าต่างๆ หันกลับมาใช้มากขึ้น

ในขณะเดียวกันตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ดังนั้น นักลงทุนควรมีความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อทำความเข้าใจในสภาวะตลาดอย่างละเอียด และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต