Connect with us

Altcoins

Elizabeth Warren Targets Elon Musk with New Bill to Address Conflicts of Interest in Government Roles

Published

on

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เอลิซาเบธ วอร์เรน กำลังเดินหน้าอย่างเข้มข้นในการตรวจสอบบทบาทของมหาเศรษฐีอย่างอีลอน มัสก์ในด้านหน้าที่ของรัฐบาล โดยล่าสุด วอร์เรนได้เปิดตัวร่างกฎหมายใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลโดยการแก้ไขปัญหาผลประโยชน์ขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับมัสก์และพนักงานรัฐบาลพิเศษ (SGEs) อื่นๆ ข้อความที่เธอโพสต์ในแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 14 เมษายน ได้ระบุว่า มัสก์รับผลประโยชน์ทางการเงินประมาณ 8.5 ล้านดอลลาร์ต่อวันจากการมีส่วนร่วมในบทบาทรัฐบาลของเขา ซึ่งวอร์เรนมีความเห็นว่า “มัสก์ไม่ควรมีบทบาทเหมือนกับประธานาธิบดีร่วมของสหรัฐอเมริกาในขณะที่ได้รับเงินจำนวนมากมายขนาดนี้”

ร่างกฎหมายที่วอร์เรนเสนอนั้นจะห้ามบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่ได้รับผลประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับหน่วยงานรัฐบาล โดยเฉพาะบริษัทของมัสก์อย่าง SpaceX และ Tesla ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญากับรัฐบาลในมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

การเคลื่อนไหวของวอร์เรนแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่มุ่งเน้นในการสร้างระบบที่โปร่งใสในการบริหาร โดยชี้ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่บุคคลเช่นมัสก์ได้รับจากบทบาทของตนในรัฐบาล แม้ว่าจะมีประโยชน์ทางการเงินที่ชัดเจน แต่นักวิจารณ์บางคนก็แสดงความกังวลว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อความสามารถในการให้บริการของบริษัทเทคโนโลยีที่ช่วยรัฐบาลประหยัดค่าใช้จ่ายมหาศาล

ในขณะเดียวกัน วอร์เรนยังได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปรับแต่งนโยบายของรัฐบาลในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเธอชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับภาษีศุลกากรนั้นอาจถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ในการจัดการตลาดให้เกิดประโยชน์ โดยวอร์เรนได้ตำหนิทรัมป์ว่าก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านการใช้กลยุทธ์นี้

ประชาชนทั่วประเทศกำลังพูดคุยและถกเถียงกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายใหม่นี้ ซึ่งมีการตั้งคำถามว่าจะส่งผลดีหรือไม่ต่อเศรษฐกิจ และว่ามัสก์ซึ่งเคยช่วยรัฐบาลในการประหยัดค่าใช้จ่ายมหาศาลนั้น จะมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจของตนได้อย่างไรในระยะยาวภายใต้กฎระเบียบใหม่
วอร์เรนได้เน้นย้ำความสำคัญของการกำหนดกรอบจริยธรรมที่มีผลบังคับใช้สำหรับ SGEs อย่างมัสก์ โดยหวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะสามารถช่วยเพิ่มความไว้วางใจในรัฐบาลและการตัดสินใจด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

ตอนนี้เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายจับตามองการพัฒนาต่อไปในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในโลกธุรกิจและการเมือง หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาและส่งผลบังคับใช้จริงในอนาคต การตอบสนองจากมัสก์ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ขณะที่ประชาชนรอคอยที่จะเห็นว่าบทใหม่ทางกฎหมายนี้จะแปรเปลี่ยนสถานการณ์อย่างไรบ้างในอนาคตอันใกล้

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Trending