ไมเคิล ซาเลอร์ ทำนายบิตคอยน์จะเป็นเครือข่ายหลักในการทำธุรกรรมการเงินโลก

ไมเคิล เซเลอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Strategy (เดิมคือ Microstrategy) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์จะกลายเป็นเครือข่ายพื้นฐานสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินทั่วโลกในอนาคต โดยเขาได้เปรียบเทียบบิตคอยน์กับทองคำซึ่งเคยเป็นรากฐานสำคัญของระบบการธนาคารในศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในช่วงที่ตระกูลรอธส์ ไชลด์ (Rothschild) มีอิทธิพลเหนือการเงินโลก

เซเลอร์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของบิตคอยน์ในการสร้างความมั่นคงให้กับระบบการเงินโลกในโลกยุคใหม่ โดยชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่บิตคอยน์จะทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์หลักในการตั้งถิ่นฐานธุรกรรมเงินสดทั่วโลก เขาได้กล่าวถึงบทบาทของทองคำในอดีตซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยจัดการและเก็บรักษาความมั่งคั่งของประชาชน ซึ่งบิตคอยน์ในทุกวันนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นสินทรัพย์ชนิดเดียวกัน

ในมุมมองของเซเลอร์ สถานการณ์การเงินในปัจจุบันต้องการทางออกใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลและข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่านวัตกรรมในเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเข้ารหัสลับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและมั่นคงให้กับการทำธุรกรรมอย่างมาก ซึ่งบิตคอยน์ถือเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของสิ่งเหล่านี้

เซเลอร์ยังได้เปรียบเทียบการเติบโตของบิตคอยน์กับการแพร่หลายของทองคำในยุคก่อนและกล่าวว่า ตลาดโกลด์เคยถูกควบคุมโดยไม่กี่กลุ่ม ซึ่งในอดีตการควบคุมระบบที่มากเกินไปได้สร้างความไม่เท่าเทียมในสังคม ในทางกลับกัน บิตคอยน์มีลักษณะการกระจายอำนาจที่ทำให้ผู้ใช้งานมีความเป็นเจ้าของและควบคุมมูลค่าของตนได้อย่างแท้จริง โดยไม่มีอิทธิพลจากองค์กรใหญ่เพียงไม่กี่ราย

แม้ว่าเซเลอร์จะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของบิตคอยน์ แต่เขาก็ไม่ละเลยความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เขตแดนกฎหมายและการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นปัญหาที่ซับซ้อนในหลายประเทศ และการยอมรับบิตคอยน์ในฐานะเงินตราหรือสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเป็นเรื่องที่ยังต้องใช้เวลาและความเข้าใจจากตลาดทั่วโลก

การตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของบิตคอยน์กลายเป็นเรื่องที่โลกกำลังมองหา และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจทำให้ผู้คนหันมาสนใจใช้บิตคอยน์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีสภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือค่าของสกุลเงินท้องถิ่นตกต่ำ

จากการคาดการณ์ของเซเลอร์ เขาเชื่อว่าบิตคอยน์จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่สามารถเข้ามาแทนที่ระบบเงินสดแบบเดิมได้ โดยเฉพาะในเวลาเศรษฐกิจตกต่ำ ผู้คนจะมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยมากขึ้นในการเก็บรักษาความมั่งคั่งของตน

ด้วยการสนับสนุนจากผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจและนักลงทุนระดับสูง ทำให้มุมมองของเซเลอร์มีน้ำหนักและสามารถกระตุ้นความคิดของนักลงทุนทั่วโลก บิตคอยน์อาจมีอนาคตที่สดใส โดยเฉพาะในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถสร้างความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเงินในระยะยาว

การมองบิตคอยน์ในฐานะแหล่งยึดเหนียวทางการเงินที่มั่นคงในอนาคต เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเงินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และบิตคอยน์อาจจะเป็นคำตอบใหม่สำหรับอนาคตเศรษฐกิจทั่วโลก