เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ยอมรับการเพิ่มขึ้นของกรณีการถอนเงินและมุ่งมั่นพิจารณาใหม่เกี่ยวกับปัญหานี้

ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ได้แสดงความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของกรณีการถอนเงินจากธนาคาร โดยเน้นย้ำว่าเขารู้สึก “ประหลาดใจ” กับแนวโน้มนี้ และได้ให้สัญญาว่าจะทำการตรวจสอบปัญหานี้อย่างจริงจังมากขึ้น ในการให้สัมภาษณ์ต่อคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พาวเวลล์พูดถึงความท้าทายที่ระบบการเงินของสหรัฐฯ กำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

ปัญหาการถอนเงินจากธนาคารเริ่มเป็นที่จับตามองอย่างกว้างขวางในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีลูกค้าหลายรายหันหลังให้กับสถาบันการเงินที่พวกเขาเคยไว้วางใจ ยิ่งไปกว่านั้น การตื่นตระหนกในระบบการเงินก็ได้รับการกระตุ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการเงินของสหรัฐฯ พาวเวลล์กล่าวว่า “เราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตระหนักถึงสถานการณ์นี้อย่างจริงจัง”

ความกังวลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประสบกับปัญหามากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจจากโรคระบาด, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ สิ่งเหล่านี้ได้สร้างแรงกดดันให้ประชาชนพิจารณาวิธีการบริหารการเงินของตนใหม่ โดยเฉพาะในขณะที่มีช่องทางการลงทุนทางเลือกมากมายเกิดขึ้น

ทางด้านนักวิเคราะห์ มองว่าการตัดสินใจของพาวเวลล์ในการพูดถึงการถอดถอนเงินจากธนาคารอาจเป็นการตอบสนองต่อความกดดันจากประชาชนและนักลงทุนที่ห่วงใยในการรักษาทรัพย์สินของตน ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลหรือการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยม เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธนาคาร

สำหรับประชาชนทั่วไป ความไม่มั่นใจในระบบธนาคารได้ทำให้หลายคนหันไปหาทางเลือกในการเก็บรักษาทรัพย์สินที่ปลอดภัยมากขึ้น มีการเติบโตของการใช้บริการจัดเก็บทรัพย์สินที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคาร หรือแม้แต่การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ

การตอบสนองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในอนาคตอาจเกี่ยวข้องกับการปรับระบบการทำงานของสถาบันการเงิน และมาตรการใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชน โดยการพิจารณาจากความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มาจากประชาชนและนักลงทุนเพื่อสร้างมาตรการที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นอาจจำเป็นต้องมีการตรวจสอบกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินและแนวทางการปฏิบัติงานของธนาคาร เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อระบบการเงินมีความซับซ้อนและมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น การวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้จึงมีความสำคัญ

ในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า หากธนาคารกลางสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้อีกครั้ง และปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้การบริการทางการเงินตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน ระบบการเงินอาจจะสามารถฟื้นตัวและกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง แต่ความท้าทายนี้ยังคงอยู่ในการพัฒนาก้าวต่อไปของเศรษฐกิจและการเงินในอนาคต