สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ร่วมมือปราบปรามอาณาจักรโจรกรรมสกุลเงินดิจิทัลของเกาหลีเหนือ

รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ได้ร่วมมือกันเพื่อยับยั้งอาณาจักรการโจรกรรมคริปโตของเกาหลีเหนือ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการขโมยเงิน crypto ที่มีมูลค่าสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ถูกใช้ในการพัฒนาอาวุธและปฏิบัติการไซเบอร์ที่เป็นอันตราย

การจับมือร่วมกันของทั้งสามประเทศนี้มีเป้าหมายในการหยุดยั้งการฟอกเงินและการใช้เงินที่ได้จากการโจรกรรมในตลาดสกุลเงินดิจิทัล เพื่อไม่ให้เกาหลีเหนือสามารถใช้เงินเหล่านี้ในการสนับสนุนโครงการอาวุธนิวเคลียร์และกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของโลก

ในแถลงการณ์ร่วมทั้งสามชาติได้ระบุว่า การขโมยเงินโดยเกาหลีเหนือมีความกังวลใจเนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีและกลยุทธ์ที่ล้ำสมัย เพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินดิจิทัลจากหลายแหล่ง ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาได้สังเกตเห็นว่ามีการขโมยเงินจากคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาที่ผ่านมา และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงโลกโดยตรง

รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีการติดตามการทำงานและการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับการขโมยคริปโตจากเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่มีความไม่โปร่งใส ตั้งแต่การไม่ให้ข้อมูลในการแลกเปลี่ยนจนถึงการใช้เครือข่ายใน dark web ที่ให้บริการทางการเงินอย่างไม่มีการควบคุม

โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ระบุจากพฤติกรรมอุกอาจในการกระทำของประเทศนี้ ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธที่สามารถท้าทายประเทศใหญ่ ๆ ในภูมิภาคและำแนวทางทำลายเสถียรภาพในพื้นที่ ผ่านการสร้างระบบที่มีกระบวนการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และแหล่งเงินทุนที่ได้จากการโจรกรรมคริปโตนี่เองที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

การวิจัยภายในได้แสดงให้เห็นว่า วงการเงินดิจิทัลมีความซับซ้อน และไม่สามารถติดตามแหล่งที่ดีที่สุดได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลในระดับนานาชาติ ทางสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้จึงได้มีการเริ่มต้นสร้างความร่วมมือกันในอนาคต โดยการสนับสนุนการสร้างโปรโตคอลร่วมกันที่ทำให้การระบุและติดตามบัญชีคริปโตที่มีที่มาจากการโจรกรรมสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์และการเงินของประเทศเหล่านี้ยังได้มีแผนจัดการที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งจะรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับรูปแบบและวิธีการที่ใช้ในการค้นหาและติดตามเงินทุนที่ได้จากการโจรกรรม โดยที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางในการกำหนดมาตรการลงโทษต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนที่ใช้เงินที่ได้จากการโจรกรรม โดยเฉพาะเงินจากการประมูลสกุลเงินดิจิทัล

ทั้งสามชาติได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างมาตรฐานทางการเงินซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้การแลกเปลี่ยนเงินทุนที่ได้จากการโจรกรรมสามารถที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดอย่างอิสระ นอกจากนี้ยังได้มีการเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมระบบการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมการเงินที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ในอนาคต การควบคุมและติดตามการเคลื่อนไหวของเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือจะต้องมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อป้องกันการสนับสนุนเงินทุนที่เป็นปัญหาต่อความมั่นคงระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยุติการใช้เงินที่ได้จากการโจรกรรมจะเป็นการก้าวสู่การรักษาความสงบในภูมิภาคเอเชียและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกในระยะยาว