ธนาคารกลางออสเตรเลียก้าวหน้าโครงการ Acacia เพื่อลองใช้ CBDC และ Stablecoin

ธนาคารกลางออสเตรเลียกำลังนำหน้าการเปลี่ยนแปลงสำคัญในภาคการเงิน ด้วยโครงการ Project Acacia ที่มุ่งทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง (CBDCs) และสเตเบิลคอยน์ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสำรวจการใช้งานทางการเงินในระดับที่มากขึ้น โครงการนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ออสเตรเลียต้องรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านเงินดิจิทัลทั่วโลก

ในข่าวล่าสุด ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ประกาศการเดินหน้าระยะที่สองของ Project Acacia โดยฝ่าฟันขีดจำกัดเพื่อทดสอบศักยภาพของ CBDCs และสเตเบิลคอยน์ พบร่วมงาน “Brad Jones” รองผู้ว่าการธนาคาร กล่าวว่าการพัฒนาระบบการชำระเงินและข้อกำหนดด้านการเงินให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัลเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับ RBA และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน

Project Acacia มีกำหนดให้ทำการทดสอบในระยะที่สอง โดยหาผู้เข้าร่วมที่หลากหลายรวมถึงสตาร์ทอัพทางการเงิน (Fintech) และธนาคารที่มีชื่อเสียง เช่น ธนาคาร Commonwealth, ANZ และ Westpac ที่จะทดสอบการใช้งาน 24 กรณี ซึ่งมี 19 กรณีที่จะใช้เงินจริงและ 5 กรณีผ่านการจำลอง โดยวัตถุประสงค์ของการดำเนินการนี้คือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดการเงินออสเตรเลีย

การทำงานของ Project Acacia ไม่เพียงแต่เป็นความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีทางการเงิน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอันยาวนานของออสเตรเลียในการสนับสนุนการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนออสเตรเลียได้ดำเนินการปราบปรามบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางการเงินที่เรียกว่า “pig butchering” ที่เข้าข่ายโกงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด คดีนี้ทำให้เกิดการให้ความสนใจอย่างมากต่อการควบคุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน นักลงทุนที่มีส่วนร่วมในโครงการ Project Acacia จะได้รับการยกเว้นจากบางข้อบังคับตามที่ ก.ล.ต. ออสเตรเลีย (ASIC) ชี้แจง ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการทดสอบสินทรัพย์ที่อยู่นอกกรอบการควบคุมที่มีอยู่ “Kate O’Rourke” ผู้บัญชาการ ของ ASIC แสดงความเห็นว่า เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังสินทรัพย์ดิจิทัลมีการใช้งานที่มีประโยชน์ในตลาดการเงินระดับสถาบัน การบรรเทาข้อกำหนดด้านกฎระเบียบจะช่วยให้การทดสอบเทคโนโลยีส่งผลดีให้สำรวจโอกาสและระบุความเสี่ยงได้

การเคลื่อนไหวของออสเตรเลียในครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงกระแสโลก แต่ยังกระตุ้นให้มีการพัฒนาในกรอบเวลาที่รวดเร็วอีกด้วย ซึ่งประเทศต่างๆ เช่น เกาหลีใต้และจีน ก็เริ่มดำเนินการสำรวจสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเสถียรภาพเช่นกัน ธนาคารใหญ่อย่างเกาหลีใต้กำลังร่วมมือสร้างสเตเบิลคอยน์ที่สนับสนุนด้วยเงินวอน ขณะที่สองยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง JD.com และ Ant Group กำลังพยายามขออนุมัติจากธนาคารกลางเพื่อให้สามารถออกสเตเบิลคอยน์ที่รองรับด้วยเงินหยวนเพื่อต่อสู้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ

การเดินหน้าของออสเตรเลียในวงการสกุลเงินดิจิทัลจึงนับว่าเป็นแนวทางที่มีความสำคัญ ระหว่างที่ประเทศต่างๆ ตื่นตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ การทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนผ่านโครงการ Project Acacia อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับระบบการเงินของประเทศ เช่นเดียวกับการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีในอนาคต

การพัฒนาเช่นนี้อาจจะเปิดโอกาสในการสร้างระบบการเงินที่มีความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยยืนยันว่าวันที่ดิจิทัลมาถึงแล้วและการเข้าสู่ยุคเงินดิจิทัลที่ถูกต้องตามกฎระเบียบจะเป็นอนาคตที่ไม่ไกลเกินเอื้อมของระบบการเงินทั่วโลก